'หมอสมิทธิ์' ชี้กฎหมาย 'กัญชาใหม่' คุมการเสพในเด็ก-เยาวชนไม่ได้

ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์สาขานิติเวชวิทยาภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา ระบุในเพจโซเชียลมีเดีย ถึงกรณี ร่างกฎหมายฯ ควบคุมกัญชา ตัวใหม่ซึ่งมีการลงนามเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ว่า

ขออธิบายอีกรอบเรื่องกฎหมายใหม่กัญชา จริงๆ เคยโพสไว้ตอนที่ประกาศนี้เป็นร่างที่เอามารับฟังความเห็นของประชาชน แต่ประกาศพึ่งออก จึงขอสรุปให้อีกครั้งว่า กฎหมายนี้ต่างจากของปี 2565 ตามรูปครับ หรือจะสรุปสั้นๆ สิ่งที่ต่างจากกฎหมายเดิม ได้ตามนี้

1. ผู้ได้รับอนุญาตให้ขายกัญชาต้องขายกัญชากับผู้ได้รับอนุญาตคนอื่นเท่านั้น คือ

“ห้ามขายกัญชาให้คนทั่วไปแล้ว”

แต่มีข้อยกเว้น คือ สามารถขายกับคนที่มีใบสั่งจ่ายจากแพทย์ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน หมอพื้นบ้านตามกฎหมาย เภสัช ทันตแพทย์ คือ

“ใครจะซื้อกัญชาต้องมีใบสั่งจ่ายจากกลุ่มแพทย์เท่านั้น”

2. มีแบบฟอร์มของใบสั่งจ่ายตามข้อ 1 และจะมีการกำหนดปริมาณที่จะขายได้ โดยให้ใช้ไม่เกินสามสิบวัน

3. ผู้ที่จะขายกัญชาหรือส่งออกกัญชา จะต้องใช้กัญชาจากแหล่งที่มีการรับรองมาตรฐานโดยกรมการแพทย์แผนไทย

สรุปกฎหมายใหม่นี้ก็ดีกว่าเดิมละครับ แต่ผมก็ยังยืนยันว่ากฎหมายตัวต้นของอันนี้มันควบคุมการเสพกัญชาเพื่อนันทนาการได้ยาก เพราะเวลาจะลงโทษก็ต้องผ่านเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมันทำให้ขั้นตอนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เห็นว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมามีการขายกัญชาแบบไม่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการขายให้เด็กและวัยรุ่นเพื่อนันทนาการ หรือส่งออกต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แล้วสุดท้ายประกาศนี้ก็อาจไม่สามารถห้ามเรื่องดังกล่าวได้ ถึงแม้จะควบคุมมากขึ้นแล้ว

ดังนั้นหากจะแก้ปัญหากัญชาที่แพร่หลายกับเด็กและเยาวชน ก็ต้องเอากลับไปเข้าบัญชียาเสพติดก่อน ซึ่งจริงๆ ทางท่านสมศักดิ์ได้เคยลงนามประกาศที่เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดแล้วตั้งแต่กลางปี 2567 และถึงขั้นส่งต่อคณะกรรมการ ปปส. จนเหมือนจะกำหนดแล้วว่ากัญชาจะกลับเป็นยาเสพติดตอนต้นปี 2568 ตามข่าวนี้ https://www.thansettakij.com/health/wellbeing/601033 แต่เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะมีพรรคหนึ่งค้านหัวชนฝา จนนายกฯ คนเก่าต้องยอม ถ้าจำข่าวกันได้

สุดท้ายก็ได้แต่หวังว่ารัฐบาลจะทำตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่กลางปี 2567 และตามที่ท่านสมศักดิ์ให้ข่าวล่าสุด เพราะไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลที่ค้านเรื่องนี้แล้ว ขอให้ได้ออกประกาศเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะสุดท้ายถึงแม้จะกลับเป็นยาเสพติด ก็สามารถใช้ทางการแพทย์ เหมือนยาเสพติดในบัญชีหลายๆ ตัว ที่มีใช้ทางการแพทย์ได้อย่างชัดเจน

ส่วนตัว พ.ร.บ. กัญชา ก็เห็นด้วยว่าควรมีในอนาคต แต่การจะออกมา มันต้องใช้เวลานานหลายปี ก็ควรเอากลับเป็นยาเสพติดก่อน เพราะประเทศเรามันผิดปกติ ตั้งแต่ปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด โดยไม่มีกฎหมายควบคุมเลย (มีก็เป็นกฎหมายควบคุมที่อ่อนมาก) จนเกิดผลเสียร้ายแรงต่อประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน ยาวนานถึงสามปีแบบนี้