'ดูไบ' อนุญาตทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์หลังพบ 'ลดภาวะหมดไฟ'
รัฐบาลดูไบอนุมัติให้พนักงานภาครัฐทำงานได้ 4 วันต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูร้อน หลังพบพนักงานมีสุขภาพจิตดีและลดอาการหมดไฟ (Burnout)
รัฐบาลดูไบออกนโยบายอนุญาตให้พนักงานภาครัฐของรัฐบาล (DGHR) ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ได้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 12 กันยายน พ.ศ.2568 ซึ่งการอนุมัติเฉพาะช่วงฤดูร้อน
การทำงานดังกล่าวจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มเวลาเข้าออกงาน โดยกลุ่มแรกจะทำงานวันจันทร์-พฤหัสบดี โดยหยุดวันศุกร์-อาทิตย์ ซึ่งจะทำงาน 8 ชม./วัน ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งจะทำงานวันจันทร์-พฤหัสบดี และทำงานครึ่งวันเสาร์ หยุดวันศุกร์ เสาร์ครึ่งบ่ายและวันอาทิตย์
เหตุผลเบื้องหลังโครงการฯ
ทั้งนี้การอนุมัติดังกล่าวมาจากเหตุผลหลักๆ ได้แก่
- สมดุลการทำงาน-ชีวิต โดยอับดุลลอฮ์ อาลี บิน ซาเยด อัล ฟาลาซี (Abdullah Ali bin Zayed Al Falasi) ผู้อำนวยการใหญ่กรมทรัพยากรบุคคลรัฐบาลดูไบ (DGHR) ระบุว่าเป็นแนวทางยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเครียด และเพิ่มความยั่งยืนของทรัพยากรบุคคล
- ผลสำรวจสนับสนุนอย่างชัดเจน ผลจากการทดลองช่วงฤดูร้อนปี 2567 พบว่า พนักงานกว่าร้อยละ 81-98% พบมีสุขภาพจิตดีขึ้น ทำงานมีความสุขมากขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยพบว่าการทำงาน 4 วัน ช่วยลดอาการหมดไฟและทำให้ผลิตภาพสูงขึ้น
- จัดการปัญหาอากาศร้อนจัด เนื่องจากช่วงฤดูร้อนของดูไบมีอุณหภูมิสูงถึง 50 องศา ซึ่งการออกโครงการดังกล่าวจะช่วยลดภาระการทำงานกลางอากาศร้อน และลดความเสี่ยงเรื่องสุขภาพด้วย
ทั้งนี้ ในประเทศอื่นๆ มีการนำแนวคิด 4 วันต่อสัปดา์มาใช้ โดยเฉพาะในกลุ่ม UAE ที่มีการเริ่มเปลี่ยนจากการทำงาน 5 วันเป็น 4.5 วันมาตั้งแต่ปี 2565 ในขณะที่ภูมิภาคอื่น เช่น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เบลเยี่ยม เยอรมนี ไอซ์แลนด์ 'ตามโมเดล 100-80-100' คือได้รับเงินเดือน 100% แต่ทำงานแค่ 80% และผลิตผลที่ได้จะต้องมี 100% ซึ่งทำให้พนักงานลดชั่วโมงทำงานจาก 40 เหลือ 35 - 36 ชั่วโมง ผลคือพนักงานเกือบ 90% ได้รับการลดชั่วโมง และผลลัพธ์เป็นบวก เช่น ความเครียดลด ขณะที่ผลผลิตและประสิทธิภาพงานดีขึ้น.


