’แว่นตาแปลภาษา‘ นวัตกรรมสุดอัจฉริยะทำลายกำแพงภาษาแบบเรียลไทม์

สำนักข่าวซินหัว รายงานวันนี้ (20มิถุนายน) ที่เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสำคัญทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พบเจ้าหน้าที่สายตรวจใช้แว่นตาอัจฉริยะช่วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หลงทางได้ภายในเวลาเพียง 30 วินาที

โดยแว่นตาอัจฉริยะได้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือและสามารถแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ทำให้เมื่อตำรวจและนักท่องเที่ยวซึ่งต่างก็สวมแว่นอัจฉริยะอันนี้ สามารถสื่อสารกันได้เข้าใจในทันที แม้จะพูดคนละภาษาก็ตาม

สำนักข่าวซินหัวระบุว่า แว่นนี้ได้ลบกำแพงภาษา ที่เคยเป็นอุปสรรคได้อย่างสิ้นเชิง 

สำหรับแว่นตาอัจฉริยะดังกล่าว พัฒนาโดยบริษัท Sichuan INMO Technology Co., Ltd. (INMO) ใช้เทคโนโลยีภาพแบบแสงนำคลื่นชนิดหักเห (diffraction waveguide imaging technology) และติดตั้งโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) สัญชาติจีน เช่น DeepSeek และ Doubao ของ ByteDance ปัจจุบัน แว่นรองรับได้ 40 ภาษา และ 90 สำเนียง 

ทั้งนี้ ทางบริษัทได้พัฒนานวัตกรรมชิ้นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเพิ่มฟังก์ชันถ่ายภาพ เล่นเกม และประชุมเสมือน และได้ส่งออกไปแล้วใน 19 ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่นและรัสเซีย

ทั้งนี้ การพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะในจีนกำลังเร่งตัวขึ้นอย่างมาก จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI

ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดระดับโลก International Data Corporation (IDC) การจัดส่งแว่นตาอัจฉริยะทั่วโลกจะสูงถึง 12.8 ล้านเครื่องภายในปี 2025 คิดเป็นการเติบโต 26% ต่อปี โดยเฉพาะในจีน การจัดส่งคาดว่าจะพุ่งถึง 2.75 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นถึง 107% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยี Rokid จากหางโจว ประกาศเมื่อวันอังคารว่า ได้เพิ่มฟังก์ชำระเงินในร้านค้าเข้าไปในแว่นตาอัจฉริยะของตน โดยร่วมมือกับ Alipay ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อของได้ด้วยคำสั่งเสียงหรือท่าทาง โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์มือถือ

ปัจจุบัน ยอดสั่งซื้อแว่น Rokid ทั่วโลกทะลุ 250,000 เครื่อง และจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน

รายงานจาก China Galaxy Securities ระบุว่า แว่นตาอัจฉริยะมีแนวโน้มจะกลายเป็นอุปกรณ์ประมวลผลหลักถัดจากสมาร์ตโฟน ซึ่งจะนำไปสู่ช่วงเวลาการเติบโตอย่างรวดเร็วของห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมด ตั้งแต่ชิป ระบบออปติก เซ็นเซอร์ และการผลิตที่เกี่ยวข้อง