Facebook "รีเซ็ตเกม" ยุติ Reels Bonus ปรับทัพสร้างรายได้แบบใหม่
สิ้นสุดยุค "Reels Bonus" Facebook ปรับกลยุทธ์สร้างรายได้ใหม่ ชู "Content Monetization" มุ่งสู่ความยั่งยืนสำหรับครีเอเตอร์
วงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์บน Facebook กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะยุติโปรแกรม "Reels Play Bonus Program" ทั่วโลกอย่างถาวรในวันที่ 31 สิงหาคม 2568
ซึ่งหมายความว่านับจากนี้เป็นต้นไป ผู้สร้างคอนเทนต์จะไม่ได้รับเงินจากยอดวิวโดยตรงจากคลิปวิดีโอสั้น Reels อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่จุดจบของการสร้างรายได้บนแพลตฟอร์ม
แต่เป็นการปูทางไปสู่ "ระบบสร้างรายได้แบบใหม่" ที่ครอบคลุมและยั่งยืนกว่าเดิม ภายใต้ชื่อ "Facebook Content Monetization"
ยุคแห่งการ "หาเงินจากยอดวิว" สิ้นสุดลงแล้ว
สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการสร้างรายได้ผ่านโปรแกรมโบนัสของ Reels ที่เคยเป็นแรงจูงใจสำคัญในการผลิตคอนเทนต์วิดีโอสั้น ย่อมต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
เพราะตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ระบบการจ่ายเงินตามยอดวิวตรงๆ จากโปรแกรมนี้จะถูกยกเลิก ซึ่งรวมถึง:
- In-stream Ads (โฆษณาในวิดีโอ): เฉพาะในส่วนที่เคยจ่ายจากยอดวิวของ Reels
- โฆษณาใน Reels: รูปแบบโฆษณาที่เคยปรากฏในระหว่างการรับชมคลิป Reels
- โปรแกรมโบนัสจากผลงาน (Performance Bonus): ซึ่งเคยเป็นระบบเชิญเท่านั้น โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น Reach (จำนวนการเข้าถึง), Engagement (การมีส่วนร่วม เช่น การแชร์, คอมเมนต์) และจำกัดเฉพาะโพสต์สาธารณะที่ไม่ใช่ Reels หรือ Stories ที่สร้างภายใน 90 วันจากช่วงเริ่มต้น และจำกัดไม่เกิน 3,000 ชิ้นต่อรอบ
ทำไม Facebook ยกเลิก Reels Bonus?
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ "ทำไม Facebook ถึงยกเลิกโปรแกรมที่เคยได้รับความนิยม?"
คำตอบอยู่ที่วิสัยทัศน์ของ Meta ที่ต้องการ "รีแบรนด์" และรวมทุกช่องทางการสร้างรายได้เข้าไว้ในระบบเดียวกัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในระยะยาว
ดังที่ Facebook ได้กล่าวไว้ชัดเจนว่า “เรารู้ว่าอาจทำให้ครีเอเตอร์บางคนผิดหวัง แต่มันคือการปรับโครงสร้างให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว”
การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Facebook ในการสร้างแพลตฟอร์มที่ยั่งยืนสำหรับครีเอเตอร์ โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าระยะยาว แทนที่จะเป็นการจ่ายเงินโบนัสแบบครั้งคราว
โอกาสใหม่ ให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้แบบ "องค์รวม"
แม้ว่า Reels จะไม่ได้จ่ายเงินจากยอดวิวโดยตรงอีกต่อไป แต่ไม่ได้หมายความว่า Reels จะ "หมดประโยชน์" หรือ "หมดความสำคัญ"
ในทางกลับกัน Reels ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้าง "รายได้ทางอ้อม" และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างรายได้แบบองค์รวมบน Facebook
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีฐานผู้ติดตามที่แข็งแกร่ง และผู้ที่ต้องการขยายฐานผู้ชมเพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้ในช่องทางอื่น ๆ ที่ยั่งยืนกว่า
ชี้ช่องทางใหม่สร้างรายได้บน Facebook ที่ยังคงอยู่และครีเอเตอร์ควรให้ความสำคัญ:
- In-Stream Ads (โฆษณาในวิดีโอ): แม้โฆษณาใน Reels จะถูกยกเลิกไป แต่โฆษณาที่แทรกในวิดีโอแบบยาว (ที่มีความยาวมากกว่า 1 นาที) ยังคงเป็นแหล่งรายได้สำคัญ โดยรายได้จะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ชมในช่วงเวลาที่โฆษณาแสดงผล ครีเอเตอร์สามารถใช้ Reels เป็น "ทีเซอร์" เพื่อนำพาผู้ชมไปยังวิดีโอฉบับเต็มที่มีโฆษณาได้
- Facebook Stars (ดาวจากแฟนคลับ): ระบบ "ดาว" เป็นช่องทางให้แฟนคลับสามารถสนับสนุนครีเอเตอร์ได้โดยตรง โดยดาวแต่ละดวงมีมูลค่าประมาณ 0.01 USD ช่องทางนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครีเอเตอร์ที่เน้นการไลฟ์สด หรือมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นและพร้อมจะสนับสนุน
- Subscriptions (สมาชิก VIP รายเดือน): ครีเอเตอร์สามารถเปิดให้แฟนคลับสมัครเป็นสมาชิกรายเดือน เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษหรือสิทธิประโยชน์เฉพาะสมาชิก รายได้จาก Subscriptions มักจะหักค่าธรรมเนียมจาก Facebook ในสัดส่วนที่น้อยกว่ารายได้จากโฆษณา ทำให้เป็นช่องทางที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพสำหรับครีเอเตอร์ที่มีฐานแฟนคลับที่พร้อมจ่าย
- Brand Deals / สปอนเซอร์: ด้วยความสามารถของ Reels ในการเพิ่ม Reach และสร้างการรับรู้ให้กับคอนเทนต์ ครีเอเตอร์สามารถดึงดูดความสนใจจากแบรนด์ต่างๆ เพื่อรับงานสปอนเซอร์ หรือทำ Brand Deal การทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ในสายงานเฉพาะทาง เช่น การเงิน การลงทุน สุขภาพ หรือเทคโนโลยี มักจะมีโอกาสสูงในการได้รับความร่วมมือจากแบรนด์ที่เกี่ยวข้อง
- Affiliate Marketing / ยิงแอด: ครีเอเตอร์สามารถใช้ Reels เพื่อแนะนำสินค้า บริการ คอร์สเรียน หรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัลต่างๆ โดยการแนบลิงก์ Affiliate หรือลิงก์ไปยังหน้าสินค้าโดยตรง Reels ทำหน้าที่เป็น "ตัวคัดกรอง" ผู้ชมที่สนใจ เข้าสู่ระบบการขาย (Sales Funnel) และเปลี่ยนเป็นยอดขายในที่สุด
- คอร์สเรียน / E-book / กลุ่มลับ: การสร้างและจำหน่ายสินค้าดิจิทัลของตนเอง เช่น คอร์สเรียนออนไลน์ E-book หรือการเข้าถึงกลุ่มลับเฉพาะสมาชิก เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ครีเอเตอร์สามารถควบคุมรายได้ได้อย่างเต็มที่ Reels สามารถใช้เป็นเครื่องมือสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างแบรนด์ส่วนบุคคล และปิดการขายสำหรับสินค้าดิจิทัลเหล่านี้ได้
แม้การจากไปของ Reels Bonus อาจสร้างความรู้สึกผิดหวังในหมู่ครีเอเตอร์บางส่วน แต่การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ของ Facebook ถือเป็นการเปิดเวทีใหม่ที่ใหญ่และหลากหลายยิ่งขึ้นสำหรับการสร้างสรรค์และสร้างรายได้
และอาจเป็นโอกาสสำคัญในการ "รีเซ็ตเกม" ปรับกลยุทธ์ และก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนยิ่งกว่าเดิมบนแพลตฟอร์ม Facebook Content Monetization ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า


