เตือน! เก็บสเต็มเซลล์จากรก โอกาสใช้น้อย ไร้หลักฐานการแพทย์รองรับ
สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทยเตือน! เก็บสเต็มเซลล์จากรก โอกาสใช้น้อยที่ 0.001% และไร้หลักฐานการแพทย์รองรับ ชี้อาจเกิดโรคขึ้นตามมาภายหลัง สอดคล้องไปกับบทความของแพทยสภา ระบุประชาชนควรศึกษาอย่างถี่ถ้วน อาจพบความเสี่ยงการยกเลิกกิจการของธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเอกชน
สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ออกโรงเตือนผ่านโซเชียลมีเดียระบุ การเก็บสเต็มเซลล์จากรก มีเพียงข้อบ่งชี้เดียวที่มีหลักฐานการแพทย์รองรับว่าสเต็มเซลล์มีประโยชน์ในการรักษา คือ การใช้สเต็มเซลล์เม็ดเลือดร่วมกับการใช้ยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคเลือด ได้แก่ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคไขกระดูกฝ่อรุนแรง โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่กลับเป็นซ้ำ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมียรุนแรง โรคมะเร็งในเด็กบางประเภท และโรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติในโรคหนังแข็ง
สำหรับการใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาประเภทอื่นๆ อยู่ในขั้นตอนของสัตว์ทดลองขั้นต้น ยังไม่สามารถใช้ได้จริงในผู้ป่วยได้! เช่น การใช้เซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ในการรักษาโรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคข้อเสื่อม โรคความเสื่อมทางระบบประสาท หรือโรคหัวใจล้มเหลว เป็นต้น
ซึ่งในปัจจุบันอาจมีผลที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการซ่อมแซมในงานวิจัย แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลายเป็นมาตรฐานทางคลินิกในการรักษา
และไม่จำเป็นต้องเก็บสเต็มเซลล์จากรก เพราะโอกาสได้ใช้น้อยมากราว 0.001 - 0.04% และไม่มีหลักฐานทางการแพทย์
โดยโรคที่เกิดขึ้นภายหลังอาจเกิดความบกพร่องทางพันธุกรรมของสเต็มเซลล์ที่มาจากรกที่เก็บไว้
ปัจจุบันสมาคมวิชาชีพทางการแพทย์ต่างๆ ทั่วโลก ไม่แนะนำการเก็บเลือดจากรกแช่แข็งไว้ใช้สำหรับการรักษาตนเอง เว้นแต่บริจาคให้กับธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดรกสาธารณะ เพื่อปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคทางโลหิตวิทยาเท่านั้น
พร้อมเตือน ประชาชนควรศึกษาข้อมูลรวมถึงหลักฐานทางการแพทย์ เพื่อไม่ให้ถูกหลอก และเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
ทั้งนี้ ทาง แพทยสภา ก็มีการออกเอกสารเตือนเป็นไปในทำนองเดียวกัน โดยสรุปคือ จากหลักฐานทางการแพทย์ที่มีอยู่อย่างจำกัดในปัจจุบันการตัดสินใจในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือการเก็บเลือดจากรกไว้ในธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดของเอกชน ประชาชนควรศึกษาข้อมูล รวมถึงหลักฐานทางการแพทย์ที่มีอยู่อย่างถี่ถ้วน ตลอดจนเข้าใจถึงค่าใช้จ่าย คุณภาพของการเก็บรักษา ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่มีหลักฐานรองรับ และความเสี่ยงของการยกเลิกกิจการของธนาคาร
โดยสามารถสอบถามปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้หากมีข้อสงสัยภายหลัง โพสต์ทูเดย์ ตรวจสอบในแพลตฟอร์มออนไลน์ พบธุรกิจการเก็บสเต็มเซลล์จากรกในคลินิกต่างๆ กำลังแพร่หลาย และมีการโฆษณาในสื่อต่างๆ จนพบเห็นในสื่อออนไลน์ทั่วไป.


