'ฮิโระ' นักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตวัย 13 ปี ความหวังครั้งแรกของไทยสู่โอลิมปิก

ความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาบ้านเรามีข่าวหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งเพราะนักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตติ้งทีมชาติไทย  “ฮิโระ แก้วตาทิพย์” คว้าอันดับ 1 รุ่น Junior Men ในการแข่งขัน 2024 Skate Milwaukee  โดยทำผลงานจบการแข่งขัน ด้วยคะแนนรวม 177.60 คะแนน. ซึ่งเป็นคะแนนรวมที่ทำลายสถิตินักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตติ้งทีมชาติไทยในแบบที่ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในรุ่นนี้ ด้วยวัยเพียง 13 ปีเท่านั้น!

‘ฮิโระ’ ถูกจับตามองจากสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย ด้วยความเชื่อมั่นว่า เด็กคนนี้นี่แหละจะพาธงประเทศไทยไปโบกสะบัดใน ‘โอลิมปิกฤดูหนาว’ ในอีก 6 ปีข้างหน้าเป็นครั้งแรก!

โพสต์ทูเดย์จึงพาไปทำความรู้จัก ‘ฮิโระ แก้วตาทิพย์’ เด็กไทยที่มีความตั้งใจและมากด้วยพรสวรรค์คนนี้ผ่านบทสัมภาษณ์สุดพิเศษนี้

 

 

• จากเล่นกับพี่ชาย สู่การแข่งขัน

เด็กชายฮิโระ ในวัย 4 ขวบ แค่อยากจะติดสอยพี่ชายไปลานสเก็ตแห่งหนึ่งในประเทศไทยเพื่อไปดูคนเล่นสเก็ต แต่พอเห็นแล้วก็เกิดความรู้สึกชอบ พอได้ลองสเก็ตก็กลับติดใจ

 

ไม่น่าเชื่อว่าความชอบของเด็กในวัย 4 ขวบวันนั้น จะมาได้ไกลและยาวนานกว่า 9 ปี

 

‘ผมอยากเล่น โตขึ้นมาก็อยากแข่ง อยากไปประเทศอื่นครับ ตอนเด็กๆ แค่เล่นเอาสนุก แต่โตขึ้นผมอยากชนะ’

ฮิโระเป็นเด็กชายพูดน้อย แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเมื่อถามถึงเรื่อง ‘ฟิกเกอร์สเก็ต’ กีฬาที่ถูกขนานนามว่าเป็นโลกน้ำแข็งของเจ้าหญิง-เจ้าชาย เพราะนอกจากความแข็งแรงและทักษะแล้วทางด้านการสเก็ตแล้ว คะแนนจะถูกตัดสินจากลีลาการนำเสนอด้วย

 

 

สำหรับฮิโระในวัยเพียง 13 ปี จุดที่เขาฝึกฝนและพัฒนาอย่างหนักขึ้นในช่วงหลังๆ คือเรื่องการนำเสนอ และความเสถียรของการกระโดดและการหมุนตัว

‘ผมชอบกระโดดและหมุน ตอนนี้ผมกระโดดและหมุนได้ 3 รอบครับตอนอายุ 12 ปี’ สามรอบของฮิโระ คือการกระโดดและหมุน 3 รอบต่อเนื่อง 2 ครั้ง และในรุ่นที่อายุเท่ากันกับฮิโระ ความเสถียรของเขาถือว่าดีที่สุดเทียบเท่ากับนักกีฬารุ่นเดียวกัน ซึ่งอยู่ในระดับตัวท็อปของโลก

‘ผมจำได้ว่าวันที่หมุน 3 รอบได้คือเป็นตอนเช้า ปกติผมพยายามทำแต่ชอบเป็นหมุนได้ 2 รอบบ้าง 2.75 บ้าง ไม่ครบรอบ แต่พอมาฝึกกับโค้ชที่อเมริกาวันนั้นตอนเช้า ผมก็ฝึกอยู่เงียบๆ กับโค้ชแค่ 2 คนแล้วก็ทำได้ รู้สึกตกใจมากเลยครับ’

 

• ออกล่าความฝัน ห่างครอบครัวไปอยู่อเมริกา

พรสวรรค์ของฮิโระฉายแสงมากขึ้นเมื่อเข้าอายุได้ 8 ปี ในการแข่งขันเนชั่นแนลลีคที่ประเทศไทย มีโค้ชชั้นนำจากต่างประเทศเห็นศักยภาพในตัวเขา และชักชวนให้ไปฝึกซ้อมทั้งที่อเมริกาและแคนาดา

‘ตอนนั้นผมอยากไปเลย อยากพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น แต่ว่าตอนนั้นยังเด็กมาก ต้องรอให้โตอีกหน่อยครับ’

เมื่ออายุเข้า 13 ปี ‘ฮิโระ’ จึงถูกส่งไปอยู่ที่อเมริกา ที่มีครอบครัวของคุณอาอาศัยอยู่ ห่างพ่อแม่ พี่ชายและน้องสาว

‘ผมก็คิดถึงบ้านครับ ถ้าอยู่ไทยก็ได้เล่นสเก็ตกับพี่ชาย ได้เล่นกับน้องสาว’

 

 

ฮิโระถูกส่งมาอยู่อเมริกา 7 เดือนแล้ว โดยที่เขาต้องรับผิดชอบตัวเองทั้งเรื่องของการฝึกสเก็ตและการเรียนไปพร้อมๆ กัน

‘ตอนนี้ผมเรียนเป็นโฮมสคูล แล้วก็ต้องฝึกสเก็ตไปด้วย .. ผมฝึกสเก็ตวันละ 4 ชั่วโมงทุกวัน ผมอยากเล่นให้ได้ดี แล้วผมก็อยากเรียนให้ได้เกรดดีๆ ไปพร้อมกันด้วย ผมชอบเรียนวิชาเลขครับ’

ฮิโระเล่าด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีว่าวิชาเลขเกี่ยวกับการเล่นสเก็ต ‘นิดนึง’ ตรงที่เวลาแข่งจะใช้การคำนวนเลขเยอะ ในการนับคะแนน

ทุกเวลาว่างของเด็กชายอายุ 13 ปีด้วยความสนใจและความตั้งใจของเขาเอง ฮิโระจะชอบดูวิดิโอการแข่งกีฬาสเก็ต สิ่งนี้เติบโตขึ้นในใจของเขาเอง ดูเหมือนว่าพ่อและแม่เพียงแต่สนับสนุนสิ่งที่เขาอยากทำเท่านั้น เขาบอกว่าตัวเองโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ

‘ผมมาที่นี่พ่อแม่ไม่ได้พูดอะไร แค่บอกว่าถ้าไปข้างนอกอย่าพกเงินเยอะ เดี๋ยวโดนปล้น และอย่าเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลา’ น้ำเสียงของฮิโระจริงจังทีเดียวเมื่อตอบคำถามนี้!

 

• ‘ฮานีว 2’

หากใครที่ตามวงการสเก็ตน้ำแข็งจะต้องรู้จักกับ ‘ยูซูรุ ฮานิว’ (Yuzuru Hanyu) นักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตชาวญี่ปุ่นขวัญใจชาวโลก ด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย และเหรียญทองแรกโอลิมปิกของเขาเกิดขึ้นเมื่ออายุได้เพียง 19 ปีเท่านั้น และเป็นนักสเก็ตลีลาคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำท่ากระโดดหมุนตัวสี่รอบกลางอากาศได้สำเร็จในระหว่างการแข่งขัน  อย่างไรก็ตามในปี 2022 ฮานีวออกมาแถลงข่าวว่าจะไม่ลงแข่งขันในรายการอีก โดยเหตุที่ว่าเขาบรรลุเป้าหมายทุกอย่างที่ทำได้แล้วและไม่ต้องการที่จะแข่งขันอีกต่อไป โดยเขาอยากที่จะกระโดดท่าควอดดริเปิด แอกเซิลได้เท่านั้น โดยสำนักข่าว Nikkei Asia ระบุว่าการจบลงของฮานีวในการแข่งขันถือเป็นการสิ้นสุดของยุคสมัย ส่วนหนังสือพิมพ์ The New York Times ระบุว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นนักสเกตคนอื่นๆ แบบฮานีวอีก

 

 

 

‘มีคนบอกว่าเขาคือ ฮานีว 2’ ดร. สุวรรณา ศิลปอาชา กรรมาธิการสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ ที่เรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 3 ของสหพันธ์สเก็ตนานาชาติ ณ ขณะนี้ ในฐานะที่เห็นพัฒนาการตั้งแต่เริ่มต้นของ ‘ฮิโระ’ เมื่อครั้งยังเป็นนายกสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย  เอ่ยขึ้นหลังจากที่เราบอกว่าน้องฮิโระมีท่าทางและรูปร่างคล้ายกับฮานิว

‘ทั้งเสื้อผ้าที่ใส่ก็เหมือนกัน เขามีไอดอลของเขา แต่สิ่งที่เหนือกว่าเด็กรุ่นเดียวกันคือ เขาพยายามที่จะทำให้ได้เหมือนอย่างที่ไอดอลเขาทำ ไม่ใช่แค่ชื่นชอบเฉยๆ ’ นักกีฬาอีกคนที่เป็นไอดอลของฮิโระก็คือ โชมะ อูโน่ (Shoma Uno) นักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตชาวญี่ปุ่นที่สามารถคว้าเหรียญในโอลิมปิกเช่นเดียวกัน เนื่องจากท่วงท่าที่สวยงาม

 

 

ดร.สุวรรณา หรือ ‘คุณเก๋’ ฉายภาพให้เราเห็นถึงพรสวรรค์ของฮิโระมากขึ้นว่า

'เขามีแววตั้งแต่เล็กๆ จนตอนนี้น้องอายุ 13 ขวบซึ่งเป็นอายุแรกที่จะสามารถแข่งในแมตช์อินเตอร์เนชั่นแนล ปีนี้ที่ประเทศไทยจะมีการแข่งเป็น Junior Grand Prix of Figure Skating ของสหพันธ์โลก ที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพในในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะเป็นแมตช์ใหญ่มาก และเป็นแมตช์ใหญ่แรกของน้อง น้องจะต้องทำคะแนนให้ดีที่สุดเพื่อเข้าแข่ง World Championships ค่ะ  ณ วันนี้เมื่อเห็นสกอร์ของน้อง ก็เข้าข้างตัวเองว่าน้องมีสิทธิได้เหรียญด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่เข้าควอลิฟายอย่างเดียว แต่มีสิทธิได้เหรียญ

เด็กคนนี้พิเศษกว่าใครหลายคน เพราะมีความตั้งใจและรักในกีฬามาก เวลาว่างน้องจะเปิดคลิปฟิกเกอร์สเก็ตตลอด และน้องชอบท้าทายตัวเอง สิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้เขาอยากจะทำได้ พยายามตลอดเวลา

การที่เขาทำสกอร์ได้ 177 ในขณะนี้เทียบเท่ากับเด็กต่างชาติเลย และไม่ใช่ Secon Tier แต่เป็น Top Tier ในรุ่นเขา เขาคือ 1 ใน 10 ได้เลย และนี่ยังไม่ได้ใส่ท่ายากขึ้นไปอีกนะคะ ถ้าใส่ท่ายากคิดว่าผลงานจะดีกว่านี้ แต่ว่าน้องเพิ่งย้ายไปฝึกที่อเมริกาก็คิดว่าจะสามารถพัฒนาความยากตรงนี้ได้อีกค่ะ

ตอนนี้น้องสามารถหมุนได้ 3 รอบตอนนี้คือ กระโดดและหมุน ซึ่งยากมากคือน้องหมุนได้ Combination Jump 3+3 ซึ่งยากมาก น้องทำได้สบายๆ ตอนนี้ แต่อาจต้องปรับเรื่องการนำเสนอ เพราะน้องยังเด็ก ในรุ่นของเขาต้องแข่งกับเด็กโต เขาจะเด็กเล็กสุดในรุ่น Junior น้องจะเสียเปรียบเรื่องท่าทางลีลา แต่น้องเพิ่งอายุได้แค่ 13 ปี ซึ่งเรามองว่ายังพัฒนาไปอีกไกล’

 

 

เส้นทางสู่โอลิมปิกของ ‘ฮิโระ แก้วตาทิพย์’ หลังจากนี้จะต้องเข้าแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนและประสบการณ์ จากนั้นเมื่ออายุ 17 ปีจึงสามารถเข้าแข่งขันในรุ่น Senior ก่อนที่จะมีสิทธิควอลิฟายเข้าแข่งขันในโอลิมปิก ซึ่งน่าจะเป็นโอลิมปิกในปี 2030

‘ ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย เราไม่เคยส่งนักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตในโอลิมปิกเลย ฮิโระจะเป็นนักกีฬาคนแรกของสมาคมที่มีความหวังว่าจะได้เข้าแข่งขันในโอลิมปิกค่ะ เพราะนักกีฬาไทยไม่เคยทำคะแนนได้ขนาดนี้มาก่อน และเชื่อว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบเท่าน้องในตอนนี้ '

 

สิ่งหนึ่งที่ส่งให้ 'ฮิโระ แก้วตาทิพย์' มีความสมบูรณ์แบบคือความตั้งใจและพรสวรรค์ของตัวเอง รวมไปถึงการสนับสนุนจากครอบครัว โค้ช และสมาคม

'มันคือความท้าทาย เพราะคนไทยไม่ค่อยรู้จักกีฬาฤดูหนาว เวลาไปแข่งเราเป็นคนเมืองร้อน ก็มักจะโดนดูถูก มันเลยเป็นความท้าทายว่าเด็กไทยก็ทำได้ ตัวพี่เก๋เองพี่เก๋พิสูจน์ด้วยการพาตัวเองไปนั่งเป็นคณะกรรมการสหพันธ์โลกแล้ว จึงอยากจะพาเด็กไทย นักกีฬาไทยเข้าไปในระดับโลกได้  คนไทยทำได้อากาศไม่เกี่ยวค่ะ!’

 

• ความฝันของเด็ก 13 กับสิ่งที่ได้เรียนรู้

ฮิโระบอกว่าเขามีความฝัน นั่นคือ เขาอยากที่จะเข้าแข่งขันในโอลิมปิกตอนที่อายุ 19 ปี

ซึ่งนั่นเป็นอายุเดียวกับที่ฮานิวเข้าแข่งขันและได้เหรียญทองโอลิมปิกเป็นครั้งแรก

ในขณะเดียวกันหลังจากนั้นเมื่อโตขึ้นเขาอยากจะเป็นโค้ชฟิกเกอร์สเก็ต

‘ เล่นสเก็ตน้ำแข็งมันสอนผมครับว่า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักตัวเอง ห้ามคิดว่าตัวเองทำดีกว่าคนอื่นหรือดีกว่าคนอื่น  ในขณะที่เวลาที่เราสู้คนอื่นไม่ได้ เราก็อย่ารู้สึกแย่หรือไม่ดี ต้องพยายามต่อไป’ ฮิโระทิ้งท้าย

 

และนี่คืออนาคตนักกีฬาทีมชาติไทยอีกคนหนึ่งที่น่าจับตามอง และเป็นโอกาสสำคัญที่ไม่เคยมีมาก่อนของประเทศไทยในประวัติศาสตร์กีฬาฟิกเกอร์สเก็ต!