


24+

























(ภาพ) เปิดเส้นทางเอ้าท์ติ้ง ‘สงขลา’ เมืองพหุวัฒนธรรม แบบยกไปได้ทั้งออฟฟิศ
เปิดเส้นทางเอ้าท์ติ้งจังหวัด ‘สงขลา’ เมืองพหุวัฒนธรรม แบบยกไปได้ทั้งออฟฟิศ ครบทั้งสถานที่เที่ยว ทำกิจกรรม เรียนรู้ชุมชน และวิถีวัฒนธรรม
ออฟฟิศไหนอยากจะยกโขยงไปเอ้าท์ติ้งกันคราวละมากๆ คงต้องประสบกับปัญหาทั้งเรื่องสถานที่ กิจกรรมต่างๆ ที่ต้องรองรับคนจำนวนมากๆ และไปทุกปีก็อาจจะอยากเปลี่ยนสถานที่ ให้เกิดความหลากหลายเพื่อกระชับความสัมพันธ์
โพสต์ทูเดย์วันนี้ จึงขอเปิดเส้นทางท่องเที่ยวที่อาจจะไกลจากกทม. สักหน่อยจาก TCEB หรือสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคใต้ ที่ได้จัดเส้นทางสร้างสรรค์สำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ (องค์กรหรือกลุ่มธุรกิจ) ซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ อีกทั้งยังได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าจดจำที่จังหวัด ‘สงขลา’ กัน
สงขลาเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมที่มีทั้งไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิม อีกทั้งยังเป็นประตูเศรษฐกิจที่เชื่อมระหว่างภาคใต้ตอนบนและภาคใต้ตอนล่างไปจนถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของเมือง อีกทั้งยังสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร และนี่คือลิสต์สถานที่ ซึ่งสามารถยกออฟฟิศไปทำกิจกรรมได้
ย่านเมืองเก่าสงขลา
ย่านเมืองเก่าที่อายุกว่า 200 ปี เต็มไปด้วยเสน่ห์ของชมชนติดทะเลสาบสงขลาในอดีต ซึ่งเคยเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ และยังคงทิ้งร่องรอยวิถีชีวิตของเมืองการค้าจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะได้เห็นทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ชิโน-ยูโรเปียน ไทย-จีน และ ไทย-มุสลิม ซึ่งผสมผสานกับความสมัยใหม่อย่างสตรีทอาร์ตตามแนวกำแพงไปด้วย
ในย่านนี้ยังมีร้านกาแฟเก่าแก่ที่เปิดมาแล้วกว่า 90 ปี อย่าง ‘ร้านฮับเซ่ง’ ที่มีเมนูเด็ดคือขนมปังสังขยาสูตรจีนไหหลำที่ส่งต่อสูตรกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ
นอกจากนี้ยังสามารถเดินชม ‘บ้านนครใน’ บ้านเก่าแก่อายุกว่า 300 ปีซึ่งประกอบไปด้วยอาคาร 2 หลัง หลังแรกจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน อีกหลังเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโน-ยูโรเปียน โดยปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตผู้คนสมัยก่อน
เดินกันทั่วแล้วก็อาจจะแวะพักมาเรียนรู้เทคนิคการดริปกาแฟกับแชมป์ภาคใต้ที่ร้าน Heart Made Roastery ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกชุมชน โดยมี Signature drink อย่าง กาแฟใส่นมผสมน้ำตาลมะพร้าว พร้อมโฟมชีสและโรยด้วยขนมขี้มอดอย่าง ‘Mr. Proud’
ใกล้ๆ กับบ่านเมืองเก่า หากอยากจะแวะทำกิจกรรมก็สามารถเข้าไปที่ ‘โนราบ้าน 168’ ที่นี่เป็นโรงเรียนสอนโนราภายใต้การดูแลของ ‘ครูธรรม’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (โนรา) ซึ่งที่นี่สามารถเรียนรู้พื้นฐานการรำโนรา การร้อยลูกปัดสำหรับเครื่องแต่งกายของโนรา ฝึกตีกลองโนรา รวมไปถึงรับชมโนราแท้ๆ ได้เลย
อีกที่หนึ่งซึ่งที่สามารถยกออฟฟิศไปเรียนรู้วัฒนธรรมและช้อปปิ้งของติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ก็คือ ‘สงขลา เฮอริเทจ’ ร้านขายงานศิลปะเล็ก ๆ จากศิลปินท้องถิ่น ที่นี่มีเวิร์กชอปทำพวงกุญแจเครื่องราง ตกแต่งด้วยลูกปัดโนราและหินมงคลหลากสี นอกจากนี้ยังสามารถไปเก็บผงธูปที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในบริเวณใกล้ๆ เพื่อนำมาใส่ไว้ในพวงกุญแจพกไว้เป็นสิริมงคลได้ด้วย
เที่ยงแล้วไม่รู้จะกินอะไรดีแนะนำ ‘บ้านเดือนฉาย’ บ้านโบราณซึ่งเคยเป็นเรือนคหบดีเมืองสงขลา ต่อมาเจ้าของใหม่เข้ามาปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์และร้านกาแฟสไตล์วินเทจ ที่นี่มีเมนูน่าสนใจหลายอย่างเช่น แตงโมและม้าฮ่อ ไปจนถึงหมูคั่วเกลือ เคบับแซลมอน
ในย่านเมืองเก่าใกล้ๆ นั้นยังมี 'โรงสีแดง หับ โห้ หิ้น’ โรงสีข้าวอายุ 100 ปีซึ่งได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี 2554 ซึ่งกลายเป็นแลนมาร์กของจังหวัดสงขลา ภายในถูกพัมนาให้เป็นศูนยกืการเรียนรู้และพื้นที่สร้างสรรค์อเนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมของชุมชนย่านเมืองเก่าสงขลา
a.e.y.space พื้นที่สร้างสรรค์ซึ่งได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี 2561ในอดีตที่นี่คือตึกแถวสไตล์จีนผสมยุโรปที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยตั้งใจจะให้พื้นที่นี้เป็นมิตรกับทุกคนและจัดแสดงผลงานศิลปะหมุนเวียน อีกทั้งยังมีพื้นที่เวิร์กช็อปด้านศิลปะและสามารถประยุกต์เป็นพื้นที่จัดการประชุมแบบไม่ทางการ
ชุมชนท่องเที่ยวเกาะยอ
ออกมาจากย่านเมืองเก่า ‘ชุมชนท่องเที่ยวเกาะยอ’ ก็เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สามารถทำกิจกรรมได้
เกาะยอเป็นเกาะขลาดเล็กในทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานบนเกาะนี้ตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในอดีตผู้คนที่นี่ทำปศุสัตว์และประมง และขยับขยายไปทำนาและสวนผลไม้ และยังเป็นที่หลบมรสุมของนักเดินทางและพ่อค้าชาวจีนในช่วงฤดูฝน
กิจกรรมบนเกาะจะมีทั้งกิจกรรมทัวร์รอบเกาะด้วยรถราง ไปไหว้องค์พระนอน ไปเวิร์กชอปทำหนังสือทำมือจากผ้าทอเกาะยอโดยกลุ่มทอผ้าร่มไทย และยังสามารถเที่ยวสวนผลไม้อย่าง สวนสมรม ที่มีทั้งส้มโอ มะพร้าว ขนุน และผลไม้ท้องถิ่นอย่างจำปาดะ และยังมีกิจกรรมเรียนรู้การสานโคระ เครื่องสานสำหรับห่อผลไม้เพื่อกันแมลง หรือการทำขนมม่อฉี ที่ได้รับอิทธิพลมาจากขนมญี่ปุ่นอย่างโมจิ
ศูนย์เรียนรู้วิถี โหนด นา เล
บนคาบสมุทรสทิงพระ ที่นี่มีศูนย์เรียนรู้และอนุรักษ์วิถีชีวิตท้องถิ่นชุมชนท่าหิน โดยเป็นการจัดแสดงวิถีชีวิตแบ่งเป็น 3 โซนด้วยกันได้แก่ โซนโหนด คือเรียนรู้การเก็บตาลโตนด นา คือการทำนา และเล คือวิถีชาวประมงของลุ่มทะเลสาบสขลา
กิจกรรมมีตั้งแต่การเก็บตลาดโตนด ทั้งชมสาธิตการเก็บลูกตาลจากต้นตาลแบบดั้งเดิมเพื่อมาทำน้ำตาลโตนด เรียนรู้การทำขนมพื้นบ้านจากตาลโตนด รวมไปถึงสามารถล่องเรือหางยาวชมความงามของทะเลสาบสงขลาและเรียนรู้เทคนิคการจับปลาได้ด้วย รวมไปถึงสามารถรับประทานอาหารท้องถิ่นที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นกันแบบสดๆ
เกี่ยวกับการท่องเที่ยว MICE
MICE คือ การท่องเที่ยวขนาดใหญ่ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเป็นองค์กรต่างๆ ที่อยากจะเข้ามาจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อมอบโบนัสหรือรางวัลให้แก่พนักงาน รวมไปถึงการจัดประชุมนานาชาติ คอนเสิร์ตหรือการจัดแสดงสินค้า!
การท่องเที่ยวแบบไมซ์ เป็นการท่องเที่ยวมูลค่าสูงเมื่อคำนวนรายรับที่ประเทศจะได้ต่อนักท่องเที่ยวหนึ่งคน เพราะนอกจากจะได้รายได้ทางตรงจากการจัดประชุมและจัดกิจกรรมแล้ว ยังมีรายได้อีกทางจาก ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่จะช่วยอุดหนุนและส่งเสริมธุรกิจแวดล้อมอื่นๆ ในบริเวณดังกล่าวอีกทางหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารายได้จากการท่องเที่ยวต่อหัวอาจจะเพิ่มสูงหลายเท่าเมื่อเทียบกับการเดินทางมาท่องเที่ยวส่วนตัวตามปกติ



24+



























