เข้าใจ ‘ป่อเต็กตึ๊ง’ ให้มากกว่าการเป็นหน่วยรับ ‘แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย’
รู้จักการดำเนินงานของ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่มากกว่าการเป็นหน่วยงานรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย ด้วยนโยบายเชิงรุกที่ครอบคลุมการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ยากไร้โดยไม่แบ่งชนชั้นและวรรณะอย่างเท่าเทียม!
‘ป่อเต็กตึ๊ง' ประชาชนอาจคุ้นชินกับภาพการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย แต่แท้ที่จริงแล้วหัวใจสำคัญของมูลนิธิคือการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์โดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ เชื้อชาติ หรือศาสนาตามหลักการของ หลวงปู่ไต้ฮง ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่มูลนิธินำมาดำเนินการในประเทศตลอด 114 ปีที่ผ่านมา
ศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เปิดเผยว่า หัวใจของการทำงานของป่อเต็กตึ๊ง ประกอบด้วยการช่วยเหลือ 3 ด้าน คือ ช่วย-รักษา-สร้างชีวิต
ช่วยชีวิต คือการช่วยชีวิตผ่านการรับแจ้งเหตุสายด่วนและแอปพลิเคชัน ทุกวันนี้ ป่อเต็กตึ๊งมีอาสาสมัครไม่ต่ำว่า 4,000 คนทั่วประเทศและในต่างประเทศด้วย ซึ่งอาสาสมัครดังกล่าวจะต้องอบรมให้ความมรู้ด้านการกู้ชีพและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ประชาชน ภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณภัยต่างๆ เช่น เหตุโรงเก็บดอกไม้ไฟระเบิดจังหวัดนราธิวาส เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2566 ซึ่งได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เป็นต้น โดยมูลนิธิฯใช้งบประมาณด้านนี้กว่า 123 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์รวมจำนวน 503,289 คน
รักษาชีวิต นอกจากช่วยชีวิตจากเหตุด่วนแล้ว ทางป่อเต็กตึ๊งยังขยายขอบเขตงานไปจนถึงการจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนให้บริการตรวจรักษาประชานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงถิ่นทุรกันดาร มีการสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลน ช่วยเหลือผู้ป่วยรายได้น้อย ผู้ป่วยโรคไตอีกด้วย นอกจากจะมีโรงพยาบาลในสังกัด อย่างโรงพยาบาลหัวเฉียว และ คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ซึ่งใช้งบประมาณด้านนี้กว่า 119 ล้านบาท
สร้างชีวิต นอกจากจะเน้นไปที่การรักษาพยาบาล กู้ภัย การสร้างชีวิตให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญ ทางมูลนิธิเองได้มีการดำเนินโครงการต่างๆ กว่า 10 โครงการ ทั้งครอบคุลมการศึกษา การประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิต ล่าสุด ในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้เปิดโครงการคาราวานปันสุขให้ชุมชน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ 50 เขตกรุงเทพฯ และยังได้ร่วมกับภาครัฐ ในโครงการแก้ปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน, โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรี ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรีที่มีรายได้น้อยที่ต้องดูแลคนในครอบครัว แม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “เล่นสนุกกับภาษาจีนกันเถอะ” ร่วมกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เปิดสอนภาษาจีนให้เยาวชนที่สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมงบประมาณด้านการสร้างชีวิต และการดำเนินงานอื่นๆ ของมูลนิธิฯ กว่า 258 ล้านบาท มีผู้ได้รับการสงเคราะห์จำนวน 613,653 คน
ซึ่งในปีงบประมาณ 2566 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ใช้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ตามแผนนโยบายดังกล่าว ที่จะ ‘ช่วยชีวิต รักษาชีวิต และสร้างชีวิต’ ให้แก่ประชาชนคนไทย


