ญี่ปุ่นคาดยอด 'สูงวัย' เสียชีวิตตามลำพังโดยไม่มีใครพบพุ่ง 68,000 รายปีนี้

สำนักข่าวซินหัวไทย รายงานผลสำรวจล่าสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (NPA) พบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม มีผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตเพียงลำพังที่บ้านกว่า 17,034 ราย โดยผลสำรวจดังกล่าวครอบคลุมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 60,466 ราย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องในช่วงเวลาดังกล่าว โดยในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตที่อาศัยอยู่ตามลำพัง 21,716 ราย และบางส่วนเป็นการฆ่าตัวตาย

ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตที่อาศัยอยู่ตามลำพังซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นเรียกว่า 'โคโดะคุชิ'  กว่าร้อยละ 80 เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้น  โดยกลุ่มผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไปพบสูงสุดที่ 4,922 ราย รองลงมาคือกลุ่มคนอายุ 75-79 ปี

โดยประเด็นการตายอย่างโดดเดี่ยวนี้ เคยเป็นประเด็นพูดคุยหารือกันของคณะทำงานเกี่ยวกับประเด็นการเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว สำนักงานคณะรัฐมนตรีในปี 2023 ระบุว่าลักษณะการตายดังกล่าวเป็นการตายอย่างที่ไม่มีใครพบเห็นจนผ่านเวลาไปช่วงหนึ่งก่อนที่จะมีการพบศพ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นวางแผนจะเก็บข้อมูลต่อไป เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุในญี่ปุ่นที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว  จนมีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้สูงอายุ และตายเพียงลำพังภายในบ้านในปี 2024 พุ่งสูงถึง 68,000 ราย โดยเฉพาะในช่วงหลังสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา

• 3 สาเหตุหลักการตายอย่างโดดเดี่ยว

ทั้งนี้ นักวิจัยด้านประชากรของประเทศญี่ปุ่นระบุใน This Week in Asia ระบุถึง 3 สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนการตายอย่างโดดเดี่ยวในประเทศญี่ปุ่นระบุว่า ข้อแรกเกิดจากการการเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต จากเดิมที่เคยอยู่ด้วยกันหลายเจเนอเรชัน แต่ทุกวันนี้ลูกมักจะย้ายออกไปอยู่ตามลำพังจากเหตุผลต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน นอกจากนี้ปัญหาจำนวนคู่แต่งงานลดลงมาหลายปี ก็ทำให้ผู้คนมักอาศัยอยู่เพียงลำพัง แม้แต่กระทั่งผู้สูงอายุในปัจจุบัน รวมไปถึงประเด็นเรื่องอายุขัยที่มากขึ้นของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิง จะมีคู่รักที่จากไปก่อนและต้องอยู่ตามลำพัง

ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการออกกฎหมายเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2023 เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาเรียกร้องให้หน่วยงานราชการในท้องถิ่นระบุตัวบุคคลที่มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว เพื่อเข้าไปดูแลและให้คำปรึกษา

• ที่มาของ โคโดะคุชิ 

สำหรับคำว่า 'โคโดะคุชิ' เป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 โดยได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษดังกล่าว ทำให้เกิดการศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ในช่วงต้นปี 1973  ซึ่งมีการสำรวจโดยสภาสวัสดิการสังคมแห่งชาติและคณะกรรมาธิการสวัสดิการเขตอาสาสมัครแห่งชาติ (National Union of Voluntary District Welfare Commissioners)  สำหรับกรณีแรกที่กลายเป็นข่าวระดับชาติในญี่ปุ่นคือในปี 2000 เมื่อมีการค้นพบศพของชายวัย 69 ปี สามปีหลังจากการตายของเขา โดยที่ค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภครายเดือนของเขาถูกถอนออกจากบัญชีธนาคารของเขาโดยอัตโนมัติ และหลังจากที่เงินออมของเขาหมดลง จึงมีการตั้งข้อสงสัยและมีการพบโครงกระดูกของเขาที่บ้าน