‘อุ่นใจไซเบอร์’ หลักสูตรใหม่ให้ผู้สูงวัยเรียน 1 ชม. ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจ!

ที่มาของอุ่นใจไซเบอร์หลักสูตรสำหรับผู้สูงวัย

 

จากสถิติที่พบจำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในผู้สูงวัยเพิ่มขึ้น ซึ่งพบว่าในปี 2566 ผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อจากการหลอกลวงผ่านสื่อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดิม 22.40% ถูกหลอกให้ซื้อของที่ไม่ได้คุณภาพ 70.53% ถูกหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 14.06%  ทาง AIS ซึ่งแต่เดิมมีหลักสูตร ‘อุ่นใจไซเบอร์’ ซึ่งได้จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยเป็นหลักสูตรที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ ปูพรมสอนในโรงเรียนให้แก่เด็กนักเรียน และบุคลากรทางการศึกษามาแล้วกว่า 320,000 ราย ได้เล็งเห็นปัญหาและความสำคัญในเรื่องนี้มาโดยตลอดว่า ‘ผู้สูงวัย’ ถือเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ของมิจฉาชีพ และการสูญเสียรายได้จากการเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตของผู้สูงวัยนับเป็นการสูญเสียที่ประเมินไม่ได้

กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน ดังที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพม. ได้กล่าวไว้ในวันเปิดตัวหลักสูตรว่า

 

‘อัตราการตกเป็นผู้เสียหายของผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นถึง 3 หมื่นล้านบาทและสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ให้ผู้สูงวัยรู้เท่าทัน สื่อสารได้เท่าทัน’

 

กระทรวงพม. จึงได้จับมือกับ AIS และภาคีเครือข่าย จัดทำหลักสูตร ‘อุ่นใจไซเบอร์’ สำหรับผู้สูงวัยขึ้น โดยมีการปรับปรุงหลักสูตรแต่เดิม นักเรียนจะต้องใช้เวลาเรียนทั้งหมด 31 บทเรียน ใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง เหลือเพียง 4 บทเรียนในเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งมีเนื้อหาที่ครอบคลุมและเพียงพอต่อการต่อกรกับมิจฉาชีพเช่นกัน

 

 

อุ่นใจไซเบอร์ รู้ทันดิจิทัล รู้ทันมิจฉาชีพ

 

ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS ได้ให้ข้อมูลว่า อุ่นใจไซเบอร์เริ่มต้นโครงการในปี พ.ศ.2562 เพื่อสร้างเครือข่ายและเสริมทักษะด้านดิจิทัลให้ประชาชนได้อุ่นใจในการใช้งาน และสามารถเป็นแนวทางสร้างภูมิคุ้มกันได้ โดยเริ่มต้นทาง AIS เคยนำหลักสูตรรู้เท่าทันดิจิทัลมาจากประเทศสิงคโปร์ แต่พบว่าบริบทของหลักสูตรไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมคนไทย จึงได้สร้างภาคีเครือข่ายกับกรมสุขภาพจิตและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสำหรับคนไทยมากยิ่งขึ้น

สำหรับหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์สำหรับผู้สูงอายุนั้น จะเน้นที่พื้นฐานการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ให้แก่ผู้สูงอายุ และรู้เท่าทันภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ โดยหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ มีเนื้อหาแกนหลักสำคัญที่ถูกแบ่งออกเป็น 4P 4ป ประกอบไปด้วย

• Practice ปลูกฝังให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกต้องและเหมาะสม
• Personality ปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
• Protection เรียนรู้การป้องกันภัยไซเบอร์บนโลกออนไลน์
• Participation รู้จักการปฏิสัมพันธ์ด้วยทักษะและพฤติกรรมการสื่อสารบนออนไลน์อย่างเหมาะสม

โดยผู้เรียนสามารถเข้าไปเรียนผ่าน Application , Website ของกระทรวงพม. รวมถึงแพลตฟอร์ม Lerndi ของ AIS โดยจะมีทั้งบทเรียนซึ่งเป็นในรูปแบบการบรรยาย อนิเมชั่น รวมไปถึงมีบททดสอบเพื่อประเมินการเรียนรู้ ก่อนจะมีการออกใบรับรองหลังจบหลักสูตรอีกด้วย

 

 

ขยายไปทุกกลุ่มทุกวัย ในอนาคต

 

ทั้งนี้ ทาง AIS มองว่าโจทย์สำคัญของโครงการ ‘อุ่นใจไซเบอร์’ คือการให้หลักสูตรนี้เข้าถึงประชาชนได้รวดเร็วและมากที่สุด แต่เดิมจากที่เคยใช้วิธีการไปตามโรงเรียนต่างๆ จึงได้เน้นไปที่การหาความร่วมมือกับหน่วยงาน เพื่อดำเนินโครงการเป็นกลุ่ม เช่น ความร่วมมือกับโรงเรียนสังกัดกทม. ซึ่งมีทั้งหมด 437 แห่งครอบคลุมประชาชน 250,000 คน

สำหรับกระทรวงพม.เอง นอกจากจะมีการขยายหลักสูตรนี้ไปยังกลุ่มผู้สูงอายุครอบคลุม โรงเรียนผู้สูงอายุ 2,500 แห่ง และศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ รวมจำนวนผู้สูงอายุกว่า 175,000 คนแล้ว ยังมีแผนงานที่จะขยายไปสู่กลุ่มต่างๆ ที่กระทรวงพม. มีความร่วมมือไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสตรี เยาวชน ผู้พิการ มากขึ้นอีกด้วยในอนาคต

 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเรียนออนไลน์ได้ที่ https://learndiaunjaicyber.ais.co.th