posttoday

ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง

17 มกราคม 2567

“Bangkok Design Week 2024” หยิบต้นทุนทางวัฒนธรรม “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลองในรูปแบบใหม่ ผ่านนิทรรศการเสียง “Sound of Bangkok Yai” ยกระดับงานออกแบบ พัฒนา คน วัฒนธรรม เมือง

‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ เป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่สามารถต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ให้ทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความแตกต่างให้แก่สินค้าและบริการ 

การสร้าง ‘ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์’ (Creative District) ให้เกิดขึ้นจริง โดยการหยิบของดีประจำย่านมาต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จึงเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เมื่อมีการพัฒนาหลาย ๆ ย่านรวมกัน จึงทำให้เกิด ‘เมืองสร้างสรรค์’ (Creative City) ที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจท้องถิ่นขยายตัว นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

“Bangkok Design Week จึงทำหน้าที่เป็น 'แพลตฟอร์ม' ที่สื่อสารเรื่อง ‘คน ธุรกิจ ย่าน และเมืองสร้างสรรค์’ ไม่ใช่ 'อีเวนต์' ที่จัดขึ้นแล้วจบไป แต่มีการนำเสนอความคิดและการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยรวมไอเดียจากนักสร้างสรรค์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรุงเทพมหานคร (Bangkok Metropolitan Administration: BMA) ที่มาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของคนในเมืองที่เกิดขึ้นจริง ผ่านงานออกแบบหลากหลายศาสตร์ ซึ่งถูกคิดมาเพื่อทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ ‘น่าอยู่’ และ ‘น่ารัก’ ยิ่งขึ้น 

งานออกแบบเหล่านี้มีการนำไปทดลองใช้งาน และได้รับคำแนะนำและเพื่อปรับปรุง แก้ไข และพัฒนางานออกแบบให้สมบูรณ์และยั่งยืนในอนาคต ตลอดจนช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของแต่ละย่าน Bangkok Design Week ยังทำให้เกิดการพบปะเชื่อมโยงจนมีกิจกรรมต่อเนื่องต่อไปในอนาคตได้ ช่วยยกระดับเศรษฐกิจ และสร้างต้นแบบการพัฒนาเมือง โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีผู้ร่วมงานในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 300,000 คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท” ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าว

ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง

BKKDW2024 ขยายพื้นที่จัดงาน 15+ ย่านทั่วกรุงเทพฯ

ในปีที่ 7 ของ “Bangkok Design Week 2024” (BKKDW2024) เทศกาลฯ กลับมาในธีม ‘Livable Scape คนยิ่งทำ เมืองยิ่งดี’ การจัดงานทั้ง 9 วันนำเสนอกิจกรรมกว่า 500+ โปรแกรม ผ่านหัวใจสำคัญ 3 มิติ ได้แก่

1. Hard Matters เมืองดีต่อกาย กายภาพดี เข้าถึงง่าย เชื่อมโยงผู้คน ให้อยู่สบาย มีสุขภาพดี

2. Heart Matters เมืองดีต่อใจ ใส่ใจผู้คน กิจกรรมหลากหลาย วัฒนธรรมแข็งแรง

3. Design Matters เมืองออกแบบดี ชีวิตดี หัวใจในการพัฒนาพื้นที่ ชุมชน และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ และภาคีเครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์

“Bangkok Design Week 2024” ปีนี้มาพร้อมโจทย์ใหม่อย่าง ‘HACK BKK’ ที่ CEA ได้พัฒนาขึ้นร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อท้าทายเหล่านักสร้างสรรค์ให้ได้ทดลองออกไอเดียแก้ปัญหาเมืองจากโจทย์ที่มีอยู่จริง โดยหวังว่าแนวทางแก้ปัญหาเหล่านี้จะถูกนำไปต่อยอดและปรับใช้งานจริงในเมืองต่อไป

นอกจากนี้ เทศกาลฯ ยังขยายพื้นที่จัดงานไปเป็น 15 ย่านและพื้นที่อื่น ๆ ทั่วกรุงเทพฯ โดยแต่ละพื้นที่ได้หยิบยก DNA ประจำย่าน มาต่อยอดเพื่อนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ได้แก่

ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง

  1. เจริญกรุง - ตลาดน้อย เปิดเวทีแห่งความเป็นไปได้ในย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้นแบบแห่งแรกของไทย ส่งเสริมการเปิดพื้นที่ให้ผลงานใหม่ได้เข้ามาจัดแสดง เช่น Pocket Oasis Garden งานออกแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดเล็ก และ Street Furniture ที่เคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะกับพื้นที่ย่านที่มีพื้นที่สีเขียวค่อนข้างน้อย และโปรเจ็กต์ที่ตอบโจทย์ HACK BKK เช่น ระบบป้ายนำทางจักรยานและจุดจอดที่อาจจะนำมาสู่โมเดลทดลองที่ถูกนำไปมาใช้งานจริงในอนาคต
  2. พระนคร ผสานความเก่าเข้ากับความล้ำสมัย เพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของย่านเมืองเก่า เพิ่มประสบการณ์การใช้งานและการเดินทางในพื้นที่สาธารณะ โดยนำเสนอกิจกรรม Projection Mapping และ Moving Image ที่จะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ ทั้งที่ประปาแม้นศรี สวนรมณีนาถ ป้อมมหากาฬ รวมถึงคอร์ตข้างในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ฯลฯ 
  3. ปากคลองตลาด ต่อยอดอัตลักษณ์ ‘ตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย' ผ่านประสบการณ์ใหม่ด้วยงานออกแบบ เช่น ต้นแบบขยายพื้นที่ Display หน้าร้านของแม่ค้าปากคลองฯ บนทางเท้าให้ดูมีเสน่ห์น่าเดิน การปรับอาคารเก่าที่เป็นโรงงานน้ำตาลปี๊บ ‘โล้วเฮียบเส็ง’ ให้กลายเป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะ ‘In Progress is Progress’ และไปรสนียาคาร อาคารไปรษณีย์แห่งแรก ที่จัดกิจกรรมหน้าอาคารเพื่อเพิ่มจำนวนคนสัญจร และทดสอบให้กลายเป็นพื้นที่เดินเชื่อมต่อในย่าน ฯลฯ

ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง

  1. นางเลิ้ง ต่อยอดภูมิปัญญาในย่านวัฒนธรรมมีชีวิต ผ่านความร่วมมือระหว่างผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมกับนักออกแบบผู้ย้ายเข้ามาใหม่ ที่สื่อสารความเป็นนางเลิ้งในมุมมองใหม่ผ่านงานออกแบบ ให้นางเลิ้งเป็นย่านที่ ‘บันเทิงทุกวัน’ ย่านมีพื้นที่จัดแสดงหลักคือ ‘โรงเรียนสตรีจุลนาค’ โรงเรียนเก่าแก่ที่ก่อตั้งโดยเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ผู้บุกเบิกการศึกษาสมัยใหม่ของไทย และ ‘บ้านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี’ (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ซึ่งทั้งสองสถานที่นี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่อยู่ร่วมกับชุมชนในย่านนางเลิ้งมาอย่างยาวนาน 
  2. เยาวราช  สานต่อตำนานย่านสตรีทฟู้ดระดับโลกที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมจีนจากรุ่นสู่รุ่น พร้อมขยายเรื่องราวไปสู่เจเนอเรชันที่หลากหลาย ด้วยการเจาะกลุ่ม ‘เด็กวัยมัธยมต้น’ ผ่านหนังสือการ์ตูน และ Street Art ในธีมของกิจการเสื่อผืนหมอนใบภายในถนนทรงวาด และโปรเจ็กต์ Go Go Bus! ที่พัฒนาระบบขนส่งขนาดเล็กเพื่อเชื่อมต่อย่าน และเพื่อลดภาระของการจราจรบนถนนเส้นหลัก จากโจทย์ HACK BKK ที่มีแผนจะปรับใช้กับพื้นที่ของทางกรุงเทพมหานคร

ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง

  1. หัวลำโพง ผลักดันย่านสร้างสรรค์รอบสถานีรถไฟใจกลางเมือง จากเรื่องราวในอดีตที่ไม่เคยถูกบันทึก อันเป็นพื้นที่เชื่อมต่อจากเจริญกรุง - ตลาดน้อย ที่นอกจากจะมีแลนด์มาร์กสำคัญอย่างสถานีรถไฟหัวลำโพง ยังมีโครงการ ‘Made in Hua Lamphong’ ที่ร่วมกับ 6 ผู้ประกอบการเก่าแก่ x 5 นักสร้างสรรค์ สร้าง Branding ภาพจำใหม่ของหัวลำโพง โปรแกรมทัวร์สำรวจย่าน และนิทรรศการปาจื้อ: คน/ดวง/เมือง การสื่อสารเรื่องธาตุประจำตัวจากโหราศาสตร์จีน เพื่อให้เกิดการรับรู้ของผู้ชมและทดลองสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ฯลฯ

ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง

  1. อารีย์ - ประดิพัทธ์ ร่วมถักทอสายสัมพันธ์ในย่าน ผ่านพื้นที่สาธารณะที่ทําให้ผู้คนได้มาอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออารี เช่น การเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สวนสาธารณะกรมประชาสัมพันธ์ การสร้างพื้นที่จัดกิจกรรมของชุมชนสร้างสรรค์ในอารีย์ ฯลฯ 
  2. บางโพ - เกียกกาย สร้างคุณค่าใหม่ให้ถนนสายไม้กลายเป็นย่านสร้างสรรค์ ผ่านการออกแบบและไอเดียของคนในพื้นที่ พร้อมขยายพื้นที่ไปยัง ‘เกียกกาย’ โดยทดลองเปิดพื้นที่กองทัพบกให้เป็นพื้นที่สันทนาการและจำหน่ายสินค้าสำหรับชุมชน  
  3. วงเวียนใหญ่ - ตลาดพลู เชื่อมโยงคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่เพื่อต่อยอดวัฒนธรรมฝั่งธนฯ บนพื้นที่สองย่านที่เชื่อมโยงกันโดยเส้นทางรถไฟ นำสินทรัพย์ในพื้นที่มานำเสนอในรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทั้งการจัดแสดง ทัวร์ลงรถไฟ การดึง Sense of Place มาจัดนิทรรศการที่นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตของผู้คนและสีสันของตลาดพลู ฯลฯ
  4. เกษตรฯ - บางบัว สร้างสรรค์ย่านให้น่าอยู่และเป็นมิตรต่อคนทุกกลุ่ม โดยเปิดโอกาสให้ศิษย์เก่าและนักศึกษา มาร่วมกันออกแบบที่นั่งสาธารณะและที่นั่งรอมอเตอร์ไซค์รับจ้าง (Street Furniture) บริเวณสถานีบีทีเอสบางบัว นอกจากนี้พื้นที่บริเวณคลองบางบัวและริมถนนพหลโยธิน จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับฉายภาพยนตร์ ตลาด การแสดงดนตรี Projection Mapping ฯลฯ  ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง
  5.  พร้อมพงษ์ พัฒนาย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองให้กลายเป็นพื้นที่ที่ดีต่อกายดีต่อใจ สําหรับผู้มาอยู่และผู้มาเยือน ในซอยสุขุมวิท 26 โดยมีไฮไลต์เป็น ‘บ้านนก บ้านกระรอก’ ส่วนหนึ่งของระบบนิเวศบนต้นไม้ริมทาง ที่นักออกแบบในย่านต้องการให้เกิดความรื่นรมย์ในระหว่างการเดินเท้า รวมถึงการออกแบบที่นั่งพักคอยของมอเตอร์ไซค์รับจ้างท้ายซอยสุขุมวิท 26 ฯลฯ
  6.  สยาม - ราชเทวี เปิดประตูสู่การรับรู้เรื่องราวของชุมชนประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ที่ถูกซุกซ่อนไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ผ่านการส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารในชุมชนบ้านครัว ชุมชนมุสลิมเก่าแก่ 
  7. บางกอกใหญ่ - วังเดิม หยิบต้นทุนทางวัฒนธรรมเดิมมาเพิ่มเติมความหมายใหม่ เพื่อฟื้นคืนชีวิตให้พื้นที่ประวัติศาสตร์ริมคลองบางกอกใหญ่ เช่น แลนด์มาร์กสำคัญอย่างวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารและชุมชนรอบด้าน โดยนักสร้างสรรค์ได้จัดทำโปรแกรมที่เปิดให้คนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ เช่น Sound of Bangkok Yai นิทรรศการเสียงที่ชวนทุกคนมาทำความรู้จักย่านบางกอกใหญ่ผ่าน ‘เสียง’ ฯลฯ
  8. พระโขนง - บางนา สร้างย่านสุขุมวิทใต้ให้น่าอยู่และเป็น Creator Hub ที่ผสานความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ทดลองพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะภายในย่านให้เป็น ‘สวนเคลื่อนที่’ (Pop-Up Park) และแหล่งการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมี ‘บ้านต้นไม้’ ในซอยสุขุมวิท 95 ที่ฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาของพื้นที่สาธารณะที่ถูกทิ้งร้าง ด้วยการปรับปรุงพื้นที่และจัดกิจกรรมสำหรับชุมชน ฯลฯ
  9. บางมด เรื่องราวการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลของธรรมชาติ ผู้คน ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่ไหลไปพร้อมกับกระแสน้ำของคลองบางมด ด้วยการส่งเสริมย่านท่องเที่ยวสร้างสรรค์ ผ่านพื้นที่เพาะปลูกผลไม้ดั้งเดิมและวิถีชีวิตริมคลองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ย่านนำเสนอทั้งโปรแกรมทัวร์และกิจกรรมพัฒนาพื้นที่เพื่อให้รองรับความเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ฟื้นคืนชีวิตประวัติศาสตร์ริมคลอง “บางกอกใหญ่ - วังเดิม” ผ่านนิทรรศการเสียง

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อื่น ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ที่ ‘คน’ ในย่านได้เริ่มลงมือ ‘ทำ’เพื่อสร้างสรรค์ให้เมืองยิ่งดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ศรีนครรินทร์ - ห้างซีคอนสแควร์ ที่ร่วมกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) และ Happening เปิดพื้นที่สำหรับการแสดงและตลาดนัดศิลปะ และบางกะปิ ซอยโยธินพัฒนา ที่เริ่มต้นรวมกลุ่มผู้ประกอบการด้านคอนเทนต์ โดยมีทีวีบูรพาเป็นผู้ริเริ่ม ฯลฯ

ข่าวล่าสุด

ตรวจสอบ 5 วิธีย้ายโรงพยาบาล 'สิทธิประกันสังคม' วันนี้ - 31 มี.ค. 69