กพท. เปิด 4 สาเหตุทำตั๋วเครื่องบินแพง พร้อมแนะแนวทางรับมือ
กพท.เผย 4 ปัจจัยดันราคาตั๋วพุ่ง ทั้งดีมานด์สูง จองกระชั้นชิด และต้นทุนพุ่ง แจงเคสด่วนเส้นทางหาดใหญ่เกิดจากภารกิจช่วยน้ำท่วม พร้อมเร่งสายการบินเพิ่มเที่ยวบินลดราคา
KEY
POINTS
- กพท. ชี้แจงว่าราคาตั๋วเครื่องบินที่สูงขึ้นมีสาเหตุหลักจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลัน, ระบบราคาแบบ Dynamic Pricing, ต้นทุนการบินที่สูงขึ้นโดยเฉพาะค่าน้ำมัน และการจองตั๋วในระยะกระชั้นชิด
- กระทรวงคมนาคมได้ประสานงานกับสายการบินต่างๆ เพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเป็นการเร่งด่วน เพื่อเพิ่มอุปทานให้เพียงพอต่อความต้องการและช่วยให้ราคากลับสู่ระดับปกติ
- กพท. แนะนำให้ผู้โดยสารวางแผนการเดินทางล่วงหน้า, หลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดยาว, เปรียบเทียบราคาจากหลายสายการบิน และมีความยืดหยุ่นในการเลือกวันเดินทางเพื่อรับมือกับราคาตั๋ว
เมื่อราคาตั๋วพุ่งขึ้นเร็วกว่าน้ำในวิกฤตใต้
กระแสวิจารณ์ “ค่าตั๋วเครื่องบินแพงผิดปกติ” โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพ–หาดใหญ่ กลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงอุทกภัยภาคใต้ เพราะประชาชนจำนวนมากต้องเดินทางด่วนกลับไปดูแลครอบครัว ขณะเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องลงพื้นที่ช่วยเหลือ ทำให้ดีมานด์พุ่งสูงในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่งให้ตั๋วราคาประหยัดถูกซื้อหมดทันที เหลือเพียงตั๋วในระดับราคาสูง ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากรู้สึกว่าราคาพุ่งแบบ “ไม่ธรรมดา”
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เร่งชี้แจงกลไกการกำหนดราคาค่าโดยสาร พร้อมเปิดเผยปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น ไม่ใช่การขายเกินเพดาน แต่คือผลของดีมานด์เฉียบพลันและปัจจัยเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมการบิน เช่น ช่วงวันหยุดยาว ต้นทุนสูงขึ้น หรือการจองกระชั้นชิดที่ดันราคาให้แพงขึ้นเป็นธรรมชาติของระบบ
เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ประสานสมาคมสายการบินให้เพิ่มเที่ยวบินรองรับ เพื่อให้ซัพพลายขยายตัวทันกับดีมานด์ที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน มาตรการนี้ช่วยให้ราคาไหลกลับใกล้ระดับปกติเร็วขึ้น และลดภาระค่าตั๋วของประชาชนในช่วงวิกฤตได้อย่างมีนัยสำคัญ
เบื้องหลังราคาตั๋ว: เมื่อ Dynamic Pricing เจอกับต้นทุนยุคใหม่
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนทั่วไป “จ่ายไม่เท่ากัน” คือระบบ Dynamic Pricing หรือโมเดลที่สายการบินทั่วโลกใช้บริหารรายได้ ผู้โดยสารที่จองล่ามักได้ราคาสูงกว่า แม้จะเป็นเที่ยวบินเดียวกัน เพราะราคาถูกถูกซื้อไปก่อน ระบบจึงขยับขึ้นตามที่นั่งที่เหลืออยู่ ยิ่งในช่วงดีมานด์พุ่งอย่างภาคใต้ ตั๋วระดับราคาต่ำจึงหมดในเวลาอันสั้นเป็นพิเศษ
นอกจากดีมานด์แล้ว ต้นทุนการบินยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่กินสัดส่วนกว่า 30–40% ของค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าเช่าเครื่องบิน ค่าบำรุงรักษา และค่าแรงบุคลากรที่ต้องมีใบอนุญาตเฉพาะทาง ต้นทุนยุคใหม่ที่สูงกว่าเดิมนี้ทำให้ราคาเฉลี่ยของตั๋วเครื่องบินไม่อาจกลับไป “ถูกเหมือนก่อนโควิด” ได้ง่าย
กพท.ตรวจสอบแล้วว่าในกรณีเส้นทางหาดใหญ่ ไม่มีสายการบินใดขายเกินเพดานราคา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ความตึงตัวของซัพพลาย” เมื่อเที่ยวบินมีจำกัด และความต้องการเกิดขึ้นพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ราคาปรับขึ้นตามโครงสร้างราคาแบบสากล ไม่ใช่การโก่งราคาอย่างที่สังคมกังวล
ผู้โดยสารยุคใหม่ต้องวางแผน ไม่ใช่แค่หาตั๋วถูก
การเดินทางทางอากาศในยุคปัจจุบันไม่ใช่แค่การหาตั๋วราคาต่ำสุดอีกต่อไป แต่เป็นการ “จัดการกลยุทธ์การเดินทาง” ผู้โดยสารต้องเรียนรู้จังหวะดีมานด์สูง–ต่ำ รู้ว่าควรจองล่วงหน้าเมื่อใด และต้องเปรียบเทียบราคาหลายสายการบินก่อนตัดสินใจ เพราะตลาดการบินกำลังกลายเป็นสนามข้อมูลที่ผู้รู้เท่านั้นที่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้
กพท.แนะนำการวางแผนที่สำคัญ เช่น จองก่อนล่วงหน้า หลีกเลี่ยงวันหยุดยาว ตรวจสอบสายการบินหลายเจ้า และปรับวันเดินทางเมื่อจำเป็น หากพบราคาสูงผิดปกติหรือสงสัยว่าเกินเพดาน สามารถตรวจสอบหรือร้องเรียนได้โดยตรงผ่านระบบออนไลน์ของ กพท. เพื่อสร้างความโปร่งใสให้ตลาดการบินไทย
ท้ายที่สุด ราคาตั๋วอาจไม่ใช่เรื่องของตัวเลขอย่างเดียว แต่สะท้อนโครงสร้างที่ซับซ้อนของอุตสาหกรรมการบินไทยในยุคฟื้นตัวหลังโควิด ทั้งสายการบิน รัฐ และผู้โดยสาร ล้วนต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวไปพร้อมกัน เพื่อให้การเดินทางเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรมในวันที่ประเทศต้องเผชิญทั้งวิกฤตและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของระบบคมนาคมทางอากาศ