posttoday

จับตา! สถานการณ์น้ำ ’เขื่อนใหญ่เกือบเต็ม’ น้ำเหนือมุ่งหน้าภาคกลาง

05 พฤศจิกายน 2568

รายงานสถานการณ์มุ่งหน้าสู่ภาคกลางและกทม. พบเขื่อนขนาดใหญ่รับน้ำอยู่ที่ร้อยละ 90 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน ฝนซ้ำอีกวันที่ 7 พ.ย.นี้ รับปริมาณฝน 3 วันเท่าฝนทั้งฤดู

สถานการณ์น้ำในเขื่อนใหญ่ และระดับน้ำ ณ สถานีระบายน้ำจุดสำคัญ

 

คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนใหญ่วันนี้ 5 พฤศจิกายน 2568  โดยปริมาณน้ำภาพรวมในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 90  เมื่อพิจารณาเขื่อนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำสายสำคัญ ซึ่งจะกระทบต่อพื้นที่บริเวณภาคกลาง พบว่า

 

  • เขื่อนภูมิพล จ.ตาก กั้นแม่น้ำปิง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 97.4
  • เขื่อนสิริกิตติ์ จ.อุตรดิตถ์ กั้นแม่น้ำน่าน มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 97.3
  • เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง กั้นแม่น้ำวัง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 107.6
  • เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี กั้นแม่น้ำป่าสัก มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 103.59
  • เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ  100.29

 

จับตา! สถานการณ์น้ำ ’เขื่อนใหญ่เกือบเต็ม’ น้ำเหนือมุ่งหน้าภาคกลาง

 

ทั้งนี้ วันนี้ ( 5 พ.ย. 68) กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที โดยผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา และหน่วงเก็บกักน้ำในทุ่งรับน้ำ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำมากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานจะประสาน สทนช. เพื่อจัดทำหนังสือเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาต่อไป

 

ขณะเดียวกันระดับน้ำ ณ สถานีระบายน้ำมีระดับน้ำ มาก ในบางจุด โดยจุดที่ต้องจับตาคือ

  • สถานีสะพานนวลฉวี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระดับน้ำอยู่ที่ 2.15 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าตลิ่งเพียง 0.35 เมตรเท่านั้น
  • สถานีคลองทวีวัฒนา  อ.ทวีวัฒนา จ.กรุงเทพมหานคร ระดับน้ำอยู่ที่ 0.91 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าตลิ่งเพียง 0.52 เมตร

 

จับตา! สถานการณ์น้ำ ’เขื่อนใหญ่เกือบเต็ม’ น้ำเหนือมุ่งหน้าภาคกลาง

 

 

สถานการณ์ฝน จับตาวันที่ 7-10 พ.ย.

 

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานวันนี้ เมื่อเวลา 12:00 น. ว่า   

 

  • ในช่วงวันที่ 5 – 6 พ.ย.  บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก 
  • ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากอิทธิพลของพายุ หลังจากนั้น ประเทศไทยจะเริ่มมีฝนลดลง 

 

ทั้งนี้ ได้มีการเตือนในช่วงวันที่ 7 - 10 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
   

 

เมื่อเจาะจงลงไปในส่วนของกรุงเทพและปริมณฑล

  • ในช่วงวันที่ 5 – 6 พ.ย. และ 11 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่
  • ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

 

 

 

รอง สทนช. ชี้แม้จะปริมาณน้ำเยอะ ท่วมในบางพื้นที่ แต่จะผ่านไปได้

 

ด้าน  นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ได้ออกมาโพสต์ข้อความ โดยมีเนื้อหาใจความระบุว่า "น้ำจะท่วมไหม เหตุการณ์มันล่อแหลมมาก จะคล้ายปี 54 ไหม กรุงเทพจะรอดไหม เมื่อไหร่น้ำจะลด ท้ายน้ำจมมานานแล้ว หลากหลายคำถามที่พรั่งพรูมาช่วงนี้ "

  • เขื่อนภูมิพล ความจุเกือบเท่าเขื่อนสิริกิติ์ ไล่กวดตามหลังมาติดๆ เกือบ 97 % เหลือช่องว่างรองรับน้ำได้ 681 ล้านลบ.ม. ( เขื่อนภูมิพล เหลือ 427 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 254 ล้าน ลบ.ม. ) 
  • เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำที่ 2,400 ลบ.ม. ต่อวินาที คาดว่าจะมีน้ำสูงสุด ที่นครสวรรค์ ประมาณ 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำจากสะแกกรัง อุทัยธานี เกือบ 250 ลบ.ม.ต่อวินาที ที่เหลือผันน้ำออกซ้าย~ขวา ประมาณ 500 ลบ.ม. ต่อวินาที 

คาดการณ์ การระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา น่าจะอยู่ในช่วง 2,500 ~2,600 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำจากเขื่อนภูมิพล ที่จะเพิ่ม เป็น 20~25~30 ล้านลบ.ม. ต่อวัน เป็นขั้นบันได เพื่อให้น้ำที่ไหลมาจากกำแพงเพชร บ้านตาก ไหลออกไปก่อน แล้วน้ำจากเขื่อนภูมิพลค่อยตามไล่หลังมา น้ำจากสุโขทัย จะตามมาต่อท้ายน้ำจากเขื่อนภูมิพล ทำให้ยอดน้ำสูงสุด ไม่พุ่งพรวดจนทำให้ต้องเร่งระบายน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยามากเกินไป ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงที่ในการระบายไม่เพิ่ม ไม่ลด เพื่อความปลอดภัย  

 

  • เขื่อนป่าสักเร่งพร่องมาด้านท้าย แต่ไม่มาก เพื่อให้มีช่องว่างรองรับ ‘’คัลแมกี ‘’กทม. และปริมณฑล ยังสามารถรองรับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่ระบายลงมาได้แน่นอน ไม่เกิน 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาทีแน่นอน แม้น้ำทะเลหนุนสูง 
  • ท่าจีน ช่วงนี้หนักหน่อย ทั้งน้ำในพื้นที่และน้ำที่มาจากเจ้าพระยา คลองรังสิต กำลังเร่งสูบน้ำออก กทม.สูบน้ำทุกวัน แจ้งวัฒนะ จุดปัญหา ฝนตกทุกเย็น ยังสูบระบายได้ต่อเนื่อง แต่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงฝนตก เพราะระบายน้ำยาก 

คัลแมกี ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคอีสาน ตะวันออก และภาคกลาง ตอนบน เหนือตอนล่าง จะไม่ส่งผลถึงเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มากนัก แต่ก็ไม่ประมาท จึงต้องเพิ่มการระบายน้ำ 

 

สรุปได้ว่า เราน่าจะผ่านปีนี้ไปได้แน่นอน ท่วมในบางพื้นที่ รักษาพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้ เร่งดูแล ฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบให้เร็ว วางแผนระยะยาวให้ได้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรง เหวี่ยงขึ้นทุกวัน

ข่าวล่าสุด

“ณัฐพล” ยอมถอย ลาออกบอร์ดสรรหา ปิดข้อครหา “สรรหาผอ.ดีป้าไม่โปร่งใส”