posttoday

“อวสานไฮโดรเจน” หรือ e-Fuels จากคาร์บอน คือคำตอบสุดท้ายพลังงาน

03 ตุลาคม 2568

อวสานทางเลือกเชื้อเพลิงจาก “ไฮโดรเจน” เมื่อคำตอบสุดท้ายของการเปลี่ยนผ่านพลังงานอาจเป็น “เชื้อเพลิงสังเคราะห์” จากคาร์บอนฯ ด้วยจุดเด่น ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ เน้นจับคาร์บอนฯบนโลกมาสังเคราะห์ร่วมกับไฮโดรเจน

KEY

POINTS

  • จับตา “e-Fuels” หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์ อาจเป็นคำตอบสุดท้ายของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน หลัง “ไฮโดรเจน” และ “รถ EV” เผชิญโจทย์ใหญ่ที่ต้องเปลี่ยนยานยนต์ทั้งระบบ
  • ชูจุดเด่นใช้ “คาร์บอนไดออกไซด์” ที่ดักจับจากอากาศหรือโรงงาน มาสังเคราะห์ร่วมกับไฮโดรเจนสะอาด กลายเป็นเชื้อเพลิงที่สามารถใช้กับเครื่องยนต์สันดาปเดิมได้ทันที
  • แม้ปัจจุบันยังเผชิญความท้าทายด้านต้นทุนการผลิตที่สูงลิ่ว แต่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเร่งผลักดันสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในอนาคตอันใกล้
  • หากลดต้นทุนได้สำเร็จใน 10-15 ปีข้างหน้า อาจถึงคราว “อวสานไฮโดรเจน” ในฐานะเชื้อเพลิงทางเลือก เพราะเชื้อเพลิงเหลวขนส่งและจัดเก็บได้สะดวกกว่า

หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์ อาจเป็นคำตอบสุดท้าย ของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ขณะที่ในห้องทดลองกำลังมองหาพลังงานเชื้อเพลิงใหม่ทดแทนการใช้น้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากไฮโดรเจน หรือ พลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับรถยนต์ EV ก็เริ่มเห็นปัญหาการใช้งาน จนมีการตั้งคำถามว่า หรือนี่ คือ “อวสาน” ของพลังงานจากไฮโดรเจน และ EV จะยังได้รับความนิยมต่อไปหรือไม่ เพราะทั้ง 2 พลังงานเชื้อเพลิงนี้ จำเป็นต้องเปลี่ยนยานยนต์ที่อยู่ในระบบทั้งหมด เพราะไม่สามารถใช้กับเครื่องยนต์แบบเดิมที่มีอยู่ได้
 

ทำให้ ปัจจุบัน e-Fuels หรือ เชื้อเพลิงสังเคราะห์ กำลังได้รับความสนใจอย่างมากทั่วโลก โดยข้อมูลจาก International e-Fuels Observatory (2025 edition) ระบุว่ามีโครงการ e-Fuels เกือบ 120 โครงการ ใน 28 ประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่ระดับนำร่องไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

อีกทั้งมีการประเมินว่ากำลังการผลิต e-Fuels ทั่วโลกอาจมีกว่า 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 แม้หลายโครงการยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวที่รวดเร็วและการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่กำลังเร่งผลักดันให้ e-Fuels ก้าวสู่การผลิตเชิงพาณิชย์จริงในอนาคตอันใกล้ 

โครงการ e-Fuels ในหลายภูมิภาคทั่วโลก แต่ละแห่งมีลักษณะและเป้าหมายต่างกันไป ตั้งแต่การทดลองในระดับสาธิต การทดสอบกับเครื่องยนต์จริง ไปจนถึงโรงงานเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ส่วนใหญ่รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการทดลอง ซึ่ง ENEOS ญี่ปุ่น คือ 1 ใน 28 ประเทศที่มีโรงงานสาธิตที่เมืองโยโกฮาม่า โดยเปิดในปี 2567 กำลังผลิต 1 บาร์เรลต่อวัน ผลิตจากพลังงานสะอาดและคาร์บอนไดออกไซด์ ได้รับการสนับสนุนจาก NEDO ภายใต้กองทุน Green Innovation Fund ของรัฐบาลญี่ปุ่น

“อวสานไฮโดรเจน” หรือ e-Fuels จากคาร์บอน คือคำตอบสุดท้ายพลังงาน

Infographic แสดงถึงกระบวนการผลิต e-Fuels หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (Electrofuels) ที่มา : www.efuel-today.com

Arita Hiroto ผู้เชี่ยวชาญแผนกสื่อสารองค์กร ENEOS ญี่ปุ่น เล่าให้ฟังว่า e-Fuels หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์ คือเชื้อเพลิงเหลวที่ผลิตขึ้นจากไฮโดรเจนสะอาดและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยอาศัยไฟฟ้าที่มาจากพลังงานหมุนเวียน กระบวนการนี้เปลี่ยนคาร์บอนฯ ที่ถูกดักจับจากปล่องโรงงานหรืออากาศให้กลายเป็น “น้ำมันดิบสังเคราะห์” ซึ่งสามารถนำไปกลั่นเป็น e-Gasoline e-Diesel และ e-SAF (Sustainable Aviation Fuel) ที่ใช้ได้กับเครื่องยนต์สันดาปภายในและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม

“อวสานไฮโดรเจน” หรือ e-Fuels จากคาร์บอน คือคำตอบสุดท้ายพลังงาน

รถบัสโดยสารสำหรับรับ-ส่ง ผู้เข้าร่วมงาน World Expo 2025 Osaka ที่เติม e-Fuels

ที่มา : https://www.kkday.com

 

กำลังการผลิตอยู่ที่ 1 บาร์เรลต่อวัน หรือ 159 ลิตร นั้น ได้มีการทดลองเติมให้กับรถบัสโดยสารสำหรับรับ-ส่ง ผู้เข้าร่วมงาน World Expo 2025 Osaka ได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ และสามารถวิ่งได้ระยะทางเท่ากับการเติมน้ำมันทั่วไป

ถามว่า แล้วทำไม e-Fuels ของ ENEOS ยังไม่สามารถทำธุรกิจในเชิงพาณิชย์ได้ Arita Hiroto อธิบายว่า หลักๆมาจากต้นทุนที่สูง นั่นคือ ค่าไฟ เนื่องจากการสกัดต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมาก ทำให้ราคาน้ำมัน e-Fuels อยู่ที่ 700 บาทต่อลิตร ขณะที่น้ำมันทั่วไปราคา 180 บาทต่อลิตร ดังนั้นสิ่งที่โรงงานสาธิตต้องทำคือ ต้องทำให้ต้นทุนถูก สามารถแข่งขันได้ และการใช้พลังงานทางเลือกคือคำตอบที่ต้องไปให้ถึง 

“อวสานไฮโดรเจน” หรือ e-Fuels จากคาร์บอน คือคำตอบสุดท้ายพลังงาน

ภาพจำลองเปรียบเทียบเชื้อเพลิงจากไฮโดรคาร์บอน
(น้ำมันดิบ เบนซิน น้ำมันเครื่องบิน ดีเซล ) 
กับ เชื้อเพลิงสังเคราะห์ (น้ำมันดิบสังเคราะห์ เบนซินสังเคราะห์ น้ำมันเครื่องบินสังเคราะห์ ดีเซลสังเคราะห์)

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อธิบายเพิ่มเติมว่า โรงงานสาธิตที่เมืองโยโกฮาม่า ของ ENEOS เป็นการดักจับคาร์บอนไดออกไซต์ในอากาศซึ่งเป็นย่านโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้นจะช่วยให้อากาศสะอาดขึ้น หาก e-Fuels มีราคาที่สามารถแข่งขันในเชิงพาณิชย์ได้ ก็จะกลายเป็นคำตอบสุดท้ายของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน เพราะสามารถใช้กับยานยนต์ที่มีอยู่ในโลกนี้ได้ทันที ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 1,500 ล้านคัน 

ส่วนประเด็นค่าไฟแพงจนทำให้ต้นทุนของ e-Fuels สูงนั้น เป็นเพราะการผลิตเชื้อเพลิงรูปแบบนี้ต้องใช้ไฟฟ้าในการแตกโมเลกุล แนวโน้มจึงต้องใช้พลังงานทดแทน และอาจใช้โมเดลประมูลพลังงานทดแทนในช่วงที่ค่าไฟติดลบมาช่วยแก้ปัญหา เพื่อเก็บพลังงานทางเลือกไว้ใช้แบบฟรีๆ หากไปถึงจุดนั้นได้ก็จะทำให้ e-Fuels กลายเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่น่าสนใจ

“อวสานไฮโดรเจน” หรือ e-Fuels จากคาร์บอน คือคำตอบสุดท้ายพลังงาน

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช

ดังนั้น e-Fuels อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาเพื่อลดต้นทุน 10-15 ปี เมื่อถึงเวลานั้น “ไฮโดรเจน” อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้าย อย่าง เชลล์ เอง ก็ยกเลิกการผลิตไฮโดรเจนไปแล้ว เพราะการขนส่งของเหลว ง่ายกว่า ส่วนในประเทศไทยหากจะมีการทดลองแบบต่างประเทศบ้าง ก็สามารถทำได้ แต่ต้องได้รับงบประมาณจากภาครัฐในการสนับสนุนโครงการ 

แม้โลกจะมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน แต่การเดินทางทั้งทางบก เรือ และอากาศ ยังคงต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงเหลวที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงและจัดเก็บได้สะดวก e-Fuels จึงกลายเป็น “พลังงานสะพานเชื่อม” ที่ทำให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนในระหว่างการเปลี่ยนผ่านได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ