posttoday

ชัชชาติลุยต่อ! ผนึก รฟท. จัดระเบียบใต้ทางด่วน-รถไฟฟ้าสายสีแดง

12 กันยายน 2568

ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าการ รฟท. ลงนาม MOU ส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานในแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงให้ กทม. บริหารจัดการเบ็ดเสร็จ ตั้งเป้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุงฯ

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ร่วมลงนามใน "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อจัดทำบริการสาธารณะในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย" อย่างเป็นทางการ ณ ห้องพิธีการ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง วันที่ 12 กันยายน 2568 ท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองหน่วยงาน

 

ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นการปลดล็อกปัญหาที่ค้างคามานาน โดย รฟท. จะส่งมอบพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะถนนในแนวเส้นทางรถไฟชานเมืองสายสีแดง ให้ กทม. เข้ามาดูแลบำรุงรักษาอย่างเต็มระบบ

 

ชัชชาติลุยต่อ! ผนึก รฟท. จัดระเบียบใต้ทางด่วน-รถไฟฟ้าสายสีแดง

 

จุดเริ่มต้นความร่วมมือเพื่อประโยชน์ประชาชน

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเน้นย้ำว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่สะท้อนถึงความร่วมมืออันดีเยี่ยมระหว่างสองหน่วยงาน โดย กทม. จะเข้าไปรับผิดชอบดูแลโครงสร้างพื้นฐานที่ประชาชนใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว ได้แก่:

 

  • ถนนสายหลัก: ถนนกำแพงเพชร 1-7

 

  • โครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ: อุโมงค์และสะพานต่าง ๆ ใต้แนวเส้นทางรถไฟ

 

"ที่ผ่านมาประชาชนใช้เส้นทางเหล่านี้อยู่แล้ว แต่การดูแลอาจยังไม่เต็มที่ เพราะการดูแลถนนไม่ใช่ภารกิจหลักของ รฟท. เมื่อ กทม. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญโดยตรงเข้ามาบริหารจัดการ จะทำให้การดูแลทั้งเรื่องการจราจร ระบบระบายน้ำ และความปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด" ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว

 

ท่านผู้ว่าฯ ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า "การลงนาม MOU ฉบับนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งท้ายที่สุดแล้วประโยชน์ทั้งหมดจะตกอยู่ที่พี่น้องประชาชน"

 

ชัชชาติลุยต่อ! ผนึก รฟท. จัดระเบียบใต้ทางด่วน-รถไฟฟ้าสายสีแดง

 

ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ รฟท. ได้กล่าวขอบคุณ กทม. ที่ตอบรับภารกิจสำคัญนี้ โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเข้ามาดูแล เนื่องจาก รฟท. ประสบปัญหาและข้อจำกัดหลายประการในอดีต

 

"ที่ผ่านมาเรายอมรับว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่เหล่านี้ รวมถึงปัญหาไฟฟ้าแสงสว่างไม่เพียงพอ รฟท. ไม่มีทั้งงบประมาณและบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านการบำรุงรักษาถนนโดยตรง ถึงขั้นต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกว่า 25 ครั้ง การที่ กทม. เข้ามาดูแลจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด จะช่วยยกระดับความปลอดภัยและสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ส่วนรวม" นายวีริศกล่าว

 

ชัชชาติลุยต่อ! ผนึก รฟท. จัดระเบียบใต้ทางด่วน-รถไฟฟ้าสายสีแดง

ประชาชนได้อะไร? เปิดประโยชน์จากความร่วมมือ กทม.-รฟท.

 

ความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้จะส่งผลดีต่อประชาชนผู้ใช้เส้นทางโดยตรงในหลายมิติ ดังนี้:

  • การจราจรคล่องตัวขึ้น: กทม. สามารถบริหารจัดการสัญญาณไฟจราจร ปรับปรุงพื้นผิวถนน และแก้ไขปัญหาคอขวดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

  • ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: จะมีการปรับปรุงไฟฟ้าแสงสว่าง ตีเส้นจราจรให้ชัดเจน และซ่อมบำรุงถนนที่ชำรุดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

 

  • แก้ไขปัญหาน้ำท่วม: กทม. จะเข้ามาดูแลระบบระบายน้ำ ท่อระบายน้ำ และอุโมงค์ต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังอย่างเป็นระบบ

 

  • ความรับผิดชอบที่ชัดเจน: ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาและร้องเรียนได้โดยตรงที่ กทม. ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบชัดเจน ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว

 

การผนึกกำลังระหว่างกรุงเทพมหานครและการรถไฟแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การลงนามในเอกสาร แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง

 

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ