ภูเก็ตมีเฮ! Boat Taxi ทางออกใหม่แก้รถติด จากสนามบินสู่ทุกท่าเรือ
สิ้นสุดการรอคอย โครงการ “Boat Taxi” เตรียมเปิดให้บริการเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทาง ลดความแออัดบนท้องถนน ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
กรมอุทยานแห่งชาติฯ และจังหวัดภูเก็ต ลงนาม MOU เดินหน้าโครงการ “Boat Taxi” เชื่อมโยงการเดินทางทางน้ำจากสนามบินสู่ท่าเรือทั่วเกาะ มุ่งแก้ปัญหาจราจรแออัด พร้อมยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในอุทยานแห่งชาติสิรินาถสู่มาตรฐานสากล
โครงการ Boat Taxi เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาจราจรในจังหวัดภูเก็ตอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้:
- เชื่อมโยงการเดินทาง: เริ่มต้นเส้นทางจากท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต และเชื่อมต่อไปยังทุกท่าเรือรอบเกาะภูเก็ต
- ลดปัญหาจราจรทางบก: ใช้ศักยภาพของเส้นทางน้ำเพื่อบรรเทาความหนาแน่นของรถยนต์บนท้องถนน โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว
- ยกระดับสู่ Premium Destination: พัฒนาระบบคมนาคมทางน้ำให้ทัดเทียมกับเมืองท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์: บริหารจัดการการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยในระดับสูงสุด
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในโครงการนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนเท่านั้น
แต่ยังเป็นโอกาสในการจัดระเบียบการท่องเที่ยวทางน้ำในอุทยานแห่งชาติสิรินาถให้ได้มาตรฐานสากล กรมจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับจังหวัดภูเก็ต เพื่อสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมและวางแผนการดำเนินงานโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเป็นสำคัญ
อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังเสริมอีกว่า โครงการนี้จะมอบประสบการณ์ใหม่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการนำเที่ยวตามชายหาดต่าง ๆ ในอนาคต
"ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดคือการช่วยระบายปัญหาการจราจรและช่วยลดมลภาวะจากรถยนต์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่ง กรมอุทยานฯ จะไม่รอช้าและพร้อมให้การสนับสนุนอย่างทันท่วงทีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ"
ทั้งนี้ พิธีลงนามครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้แทนร่วมลงนาม
โดยมีนายเทอดไทย ขวัญทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) และนายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยการดำเนินโครงการจะอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว การลงนามในครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและทันสมัยอย่างแท้จริง


