posttoday

“Carbon Management Platform” หัวใจขับเคลื่อน EEC สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

12 กันยายน 2568

มจธ. ผนึกกำลังพันธมิตรพัฒนา “Carbon Management Platform” ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยใน EEC สู่ Carbon Neutrality และ Net-Zero Emission

KEY

POINTS

  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) พัฒนา “Carbon Management Platform” เพื่อเป็นเครื่องมือดิจิทัลครบวงจร สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
  • แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถคำนวณ ติดตาม และบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นระบบ เพื่อวางแผนการลดคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • มีบริการหลัก 3 ด้านที่ครอบคลุม ได้แก่ การบริหารจัดการข้อมูลเชิงรุกเพื่อวิเคราะห์การปล่อยคาร์บอน, การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ, และการฝึกอบรมออนไลน์เพื่อสร้างบุคลากร
  • โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการใน EEC ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นกลไกขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

ประเทศไทยได้ประกาศชัดว่าจะก้าวสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และ Net-Zero ภายในปี 2065 ซึ่งจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลัก 

 

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กลายเป็นวิกฤตระดับโลกที่ทุกประเทศต้องเร่งรับมืออย่างจริงจัง การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) ได้กำหนดเป้าหมายใหญ่ของมนุษยชาติ คือการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสภายในศตวรรษนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว หลายประเทศได้ประกาศเจตนารมณ์เดินหน้าสู่ Carbon Neutrality และ Net-Zero Emission อย่างชัดเจน

 

ขณะเดียวกันภาคธุรกิจทั่วโลกก็ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมาตรการสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศเริ่มเข้มงวดขึ้น เช่น CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ของสหภาพยุโรป ที่กำหนดให้สินค้าส่งออกบางประเภท อาทิ เหล็ก อะลูมิเนียม และซีเมนต์ ต้องผ่านเกณฑ์คาร์บอน หากไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ธุรกิจไทยย่อมสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทันที

 

สำหรับประเทศไทยเอง ได้ประกาศเป้าหมายชัดเจนว่าจะก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065) การบรรลุเป้าหมายระดับชาติที่ท้าทายนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลักของประเทศ และมีบทบาทโดยตรงต่อเศรษฐกิจและการส่งออก

 

ดร.กิตติศักดิ์ พฤกษ์กานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

 

มจธ. ก้าวสู่ผู้นำด้านนวัตกรรมคาร์บอน

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะสถาบันการศึกษาที่เน้นสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกในการผลักดันภาคอุตสาหกรรมสู่เป้าหมาย Net-Zero โดยการเปิดตัว “Carbon Management Platform” ซึ่งเป็นผลงานจากโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีเป้าหมายหลักในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ให้สามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emission) ได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. (ซ้าย)

 

หัวใจของโครงการคือการพัฒนา “Carbon Management Platform”

รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือดิจิทัลครบวงจร สนับสนุนภาคธุรกิจทุกระดับตั้งแต่วิสาหกิจขนาดเล็กไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ ให้สามารถกำหนดเป้าหมายคาร์บอน ติดตามประสิทธิภาพ และบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นระบบ

 

ฟังก์ชันครบวงจร ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม

หัวใจสำคัญของ “Carbon Management Platform” คือบริการที่ครอบคลุมสามด้านหลัก ได้แก่

1. การบริหารจัดการข้อมูลเชิงรุก (Proactive Data Management)
ระบบสามารถคำนวณและวิเคราะห์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรตามมาตรฐานสากล เพื่อช่วยผู้ประกอบการเห็นภาพรวมและจุดที่สามารถปรับปรุงได้ทันที

2. คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Consultation)
ผู้ใช้งานสามารถนัดหมายผู้เชี่ยวชาญจาก มจธ. และหน่วยงานพันธมิตร เพื่อขอคำแนะนำเฉพาะด้าน ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การเลือกใช้เทคโนโลยีสะอาด ไปจนถึงการออกแบบกลยุทธ์สู่การลดการปล่อยคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ

3. การฝึกอบรมและหลักสูตรออนไลน์ (e-Courses)
จัดทำเพื่อเพิ่มพูนศักยภาพบุคลากรภายในองค์กร ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการจัดการคาร์บอนและความยั่งยืน สร้าง “ผู้เชี่ยวชาญคาร์บอน” ในทุกระดับธุรกิจ

 

“การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำไม่ใช่ภาระ แต่คือโอกาสที่ธุรกิจจะเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม แพลตฟอร์มนี้จะเป็นสะพานเชื่อมองค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติจริง”

 

“Carbon Management Platform” หัวใจขับเคลื่อน EEC สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

 

ผศ.ดร.เดี่ยว กุลพิรักษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่าย Digital Transformation หัวหน้าโครงการ กล่าวว่า “การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำไม่ใช่เรื่องซับซ้อนและไม่ใช่ภาระสำหรับผู้ประกอบการ แต่เป็นโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ การพัฒนาแพลตฟอร์มนี้คือ ‘สะพาน’ ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้และเทคโนโลยีไปสู่ภาคปฏิบัติ เพื่อช่วยผู้ประกอบการในพื้นที่ EEC เตรียมพร้อมและปรับตัวได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของนานาชาติจะส่งผลกระทบอย่างเต็มรูปแบบ”

 

อังศุธรย์ วสุสัณห์ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจ BCG สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)


เครือข่ายความร่วมมือ แกนหลักขับเคลื่อน EEC

การดำเนินงานของ มจธ. ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงลำพัง แต่เกิดจากความร่วมมือของพันธมิตรสำคัญ ได้แก่

- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

- สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

ที่ผ่านมา ได้มีการจัด Workshop และให้คำปรึกษาเชิงลึก สำหรับสถานประกอบการในพื้นที่ EEC รวม 3 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมกว่า 282 ราย และมีผู้ประกอบการลงทะเบียนใช้งานแพลตฟอร์มแล้วกว่า 250 ราย ตัวเลขเหล่านี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังตื่นตัวและพร้อมเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

 

“Carbon Management Platform” หัวใจขับเคลื่อน EEC สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

 

งานแถลงข่าว “Sustainable Success” พื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยนความรู้

ในงานแถลงข่าว “ความสำเร็จของโครงการฯ และแผนการต่อยอดสู่ Sustainable Success” มจธ. ไม่ได้เพียงนำเสนอผลลัพธ์ของแพลตฟอร์ม แต่ยังสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่ครอบคลุมทุกมิติของการจัดการคาร์บอน ได้แก่

การบรรยายเชิงนโยบาย โดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจทั้งกลไก กฎหมาย และยุทธศาสตร์ระดับชาติ

พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่องค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการจัดการคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม EEC

เสวนาแลกเปลี่ยน ระหว่างนักวิจัย ผู้แทนองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และผู้บริหารจากบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อสะท้อนทั้ง “โอกาส” และ “ความท้าทาย” ของการบริหารจัดการคาร์บอน

การบรรยายพิเศษเรื่อง Green Finance โดยผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ชี้ให้เห็นถึงเครื่องมือทางการเงินและการสนับสนุนที่ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงได้ในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

 

ก้าวต่อไป สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

“Carbon Management Platform” ของ มจธ. จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือสำหรับวัดผลการปล่อยคาร์บอน แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยในเขต EEC สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการสร้างระบบเศรษฐกิจสีเขียวที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจ

การจัดการคาร์บอนจึงไม่ใช่แค่ความท้าทายของภาคอุตสาหกรรม แต่เป็นโอกาสใหม่ในการสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคต Net-Zero ได้จริง

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ