posttoday

เผย บีวายดี กำไรร่วง 30% ครั้งแรกใน 3 ปี เหตุสงครามราคารถ EV

31 สิงหาคม 2568

บีวายดีผู้ผลิตรถ EV ยักษ์ใหญ่ของโลกเผยผลกำไรไตรมาส 2 ลดลงเกือบ 30% เป็นครั้งแรกใน 3 ปี ผลพวงจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาดจีน

บีวายดีเผชิญวิกฤต! กำไรไตรมาส 2 ดิ่งเกือบ 30% ครั้งแรกใน 3 ปี สงครามราคารถ EV ในจีนกระหน่ำ

บีวายดี (BYD) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ระดับโลก ต้องเผชิญกับผลประกอบการที่น่าตกใจ หลังจากที่กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 ลดลงเกือบ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นการลดลงปีต่อปีครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามราคาที่ดุเดือดในตลาดรถ EV ของจีน
 

รายงานที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงระบุว่า ในไตรมาส 2 บีวายดีมีกำไรเพียง 6,400 ล้านหยวน หรือประมาณ 28,608 ล้านบาท และมียอดขายรวม 200,900 ล้านหยวน ซึ่งเติบโตเพียง 14% เท่านั้น ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับการเติบโต 36.35% ในไตรมาสแรก นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นก็ลดลงจาก 20.07% ในไตรมาสแรก เหลือเพียง 16.27% ในไตรมาสที่ 2

สงครามราคาฉุดผลกำไร

สาเหตุหลักที่ฉุดผลประกอบการของบีวายดีคือการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาดจีน ซึ่งบีวายดีเองก็เป็นหนึ่งในผู้จุดชนวนสำคัญ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บีวายดีได้ใช้กลยุทธ์ลดราคาขายรถยนต์ลงถึง 34% รวมถึงการประกาศราคารถ EV ที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ God Eye ในราคาที่ต่ำกว่า 100,000 หยวนเล็กน้อย หรือกว่า 455,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงจากที่เคยประกาศไว้
 

ยอดขายยังไปไม่ถึงเป้า

แม้จะมียอดขายสะสมทั่วโลกในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2025 (มกราคม - กรกฎาคม) สูงถึง 3,035,253 คัน แต่ยอดขายดังกล่าวก็ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 5.5 ล้านคัน โดยยอดขายส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในจีนถึง 82.05% ขณะที่ยอดส่งออกอยู่ที่ 17.95%

แม้ว่าบีวายดีจะยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์ในจีนด้วยส่วนแบ่งตลาด 29.2% แต่การแข่งขันก็ยังคงรุนแรง โดยเฉพาะจากคู่แข่งอย่างเทสลา ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 4.1% ในเดือนกรกฎาคม

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68