เปิดภาพอุโมงค์ยักษ์คลองทวีวัฒนา พร้อมใช้ปี 69 แก้น้ำท่วมฝั่งธน

กรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศความคืบหน้าครั้งสำคัญของโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริหารจัดการน้ำที่มีความสำคัญยิ่งของเมือง โดยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568

 

นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. เปิดเผยว่า การขุดเจาะอุโมงค์ระบายน้ำความยาวกว่า 2.03 กิโลเมตร เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว โดยใช้นวัตกรรมเครื่องขุดเจาะอุโมงค์ความดันดินสมดุล หรือ EPB Shield Tunnel Boring Machine (TBM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัย สามารถลดผลกระทบต่อโครงสร้างดินและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

อุโมงค์แห่งนี้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.70 เมตร (หัวเจาะกว้าง 4.27 เมตร) ขุดตามแนวคลองทวีวัฒนา เริ่มต้นจากจุดตัดกับถนนเพชรเกษม ไปสิ้นสุดที่พื้นที่สวนยอดแขมในซอยเพชรเกษม 69 โดยแนวอุโมงค์ถูกวางตัวใต้คลองทวีวัฒนา เพื่อทำงานร่วมกับระบบผันน้ำที่มีอยู่แล้ว จุดเริ่มต้นของอุโมงค์จะมีการก่อสร้างอาคารรับน้ำเพื่อรองรับน้ำฝนเข้าสู่ท่ออุโมงค์ ส่วนปลายอุโมงค์จะสร้างอาคารสถานีสูบขนาดใหญ่ เพื่อผลักดันน้ำออกสู่คลองภาษีเจริญ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการระบายน้ำออกจากฝั่งธนบุรี

 

 

ความพิเศษของโครงการนี้อยู่ที่การนำ เครื่องขุดเจาะ EPB Shield TBM มาใช้ ซึ่งต่างจากการขุดแบบเปิดหน้าดินในอดีต เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถรักษาสมดุลแรงดันดินและแรงดันน้ำขณะเจาะ ทำให้ดินไม่ยุบตัวและป้องกันการรั่วซึมของน้ำเข้ามาในอุโมงค์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดการสั่นสะเทือนที่อาจส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน และยังช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้าง เทียบเท่ากับมาตรฐานที่ใช้ในโครงการอุโมงค์เมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น โตเกียวและสิงคโปร์

 

เมื่อโครงการแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2569 อุโมงค์คลองทวีวัฒนาจะสามารถรองรับน้ำฝนไหลผ่านได้สูงสุด 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในเขตทวีวัฒนา หนองแขม และบางแค รวมราว 60 ตารางกิโลเมตร นับเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังที่เรื้อรังมานานของชุมชนในฝั่งธนบุรี และยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ปลอดภัยและมั่นคงมากขึ้น

 

 

โฆษก กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลมอบหมายให้กรุงเทพมหานครพัฒนาระบบระบายน้ำฝั่งตะวันตก เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน โดยมีเป้าหมายให้ระบบสามารถรองรับปริมาณน้ำหลากได้ถึง 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และสามารถผันน้ำออกสู่ทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือโครงการนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกรุงเทพมหานครที่จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาเมืองให้มีความปลอดภัย ทันสมัย และพร้อมรับมือกับวิกฤติสภาพอากาศในอนาคต

 

 

การก่อสร้างครั้งนี้ดำเนินการโดย บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) ภายใต้การกำกับดูแลและให้คำปรึกษาจาก บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด และ บริษัท พี แอนด์ ซี แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุโมงค์และโครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ

 

 

ในภาพรวม “อุโมงค์ยักษ์คลองทวีวัฒนา” ไม่ใช่เพียงโครงสร้างทางวิศวกรรม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปรับตัวของกรุงเทพฯ สู่เมืองที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะ “น้ำท่วม” ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของเมืองมาหลายทศวรรษ และเมื่อเปิดใช้งานจริงในปี 2569 ประชาชนฝั่งธนบุรีจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งในแง่ความปลอดภัย คุณภาพชีวิต และการพัฒนาที่ยั่งยืนของเมืองหลวงไทย