เนต้าโดนปรับโหด! สรรพสามิตฟันหยุดผลิต EV ผิดเงื่อนไขรัฐ
เนต้าหยุดผลิตอีวีในประเทศ สรรพสามิตเตรียมเรียกเงินคืนพร้อมค่าปรับ 2 เท่า หลังบริษัทแม่ในจีนล้มละลาย ผู้ใช้รถกว่า 12,000 รายในไทยเริ่มกังวลอนาคต
กรมสรรพสามิตเตรียมเอาผิดบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด หลังพบว่าหยุดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศโดยไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรการสนับสนุนอีวีของรัฐ พร้อมระงับการจ่ายเงินชดเชยแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาการลงโทษขั้นเด็ดขาด ซึ่งอาจมีค่าปรับทวีคูณสูงถึง 2 เท่า
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้เกิดจากการผิดเงื่อนไขของมาตรการส่งเสริม EV ที่รัฐบาลไทยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินสนับสนุนเพื่อดึงดูดการลงทุนและการผลิตภายในประเทศ โดยเนต้าไม่ได้ดำเนินการผลิตชดเชยตามที่ตกลงไว้ ขณะเดียวกัน บริษัทแม่ในจีนก็เพิ่งยื่นขอล้มละลายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ยิ่งตอกย้ำความกังวลเรื่องเสถียรภาพของธุรกิจ
สำหรับบทลงโทษที่เนต้าไทยอาจต้องเผชิญ ได้แก่
- เรียกคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้จาก 8% เหลือ 2%
- เรียกเงินชดเชยที่ได้รับจากรัฐ 150,000 บาทต่อคัน
- พร้อมคิดดอกเบี้ยย้อนหลัง
- และอาจโดนค่าปรับเพิ่มอีก 1–2 เท่าของยอดรวม
แม้มาตรการจะเน้นลงโทษผู้ประกอบการเท่านั้น และไม่มีผลโดยตรงต่อประชาชน แต่สถานการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความไม่มั่นใจแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะเจ้าของรถเนต้ากว่า 12,000 คัน ที่ใช้งานอยู่ในประเทศไทย ซึ่งหลายรายเริ่มกังวลเรื่องการรับประกัน บริการหลังการขาย และการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ในระยะยาว
เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย กรมสรรพสามิตเตรียมเสนอแนวทางใหม่ให้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า (บอร์ด EV) พิจารณา โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องส่งแผนการผลิตรายเดือน หากไม่เป็นไปตามเป้าจะถูกเตือนผ่านระบบ “ใบเหลือง-ใบแดง” และอาจถูกระงับการสนับสนุนในอนาคต
ทั้งนี้ สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลกในปัจจุบันเริ่มเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งการแข่งขันที่รุนแรง ราคาลดต่ำลง รวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
ขณะที่ในจีน ซึ่งเป็นผู้นำด้าน EV เริ่มมีบริษัทบางแห่งประสบปัญหาทางการเงินและทยอยถอนตัวจากตลาด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกประเทศต้องทบทวนแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรม EV อย่างรอบคอบยิ่งขึ้น


