NEO จับมือ วว. ยกระดับงานวิจัยสู่การใช้จริง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน
NEO ผนึก วว. ยกระดับงานวิจัยสู่การใช้จริง ขับเคลื่อนชุมชนด้วยนวัตกรรมและจัดการขยะอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าสู่ Carbon Neutral ปี 2593 พร้อมสร้างโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนร่วมกับภาครัฐ
การพัฒนาอย่างยั่งยืนกลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกอุตสาหกรรม ล่าสุดบริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ของไทย ได้ก้าวอีกขั้นสู่การเป็นองค์กรต้นแบบด้าน ESG (Environment, Social, Governance) ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ภายใต้การกำกับของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมีเป้าหมายหลักในการ นำนวัตกรรมและองค์ความรู้จากงานวิจัยมาประยุกต์ใช้จริงในภาคอุตสาหกรรมและชุมชน สร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
ก้าวแรกของความร่วมมือที่มากกว่าแค่ “วิจัย”
ความร่วมมือระหว่าง NEO และ วว. ไม่ได้หยุดอยู่เพียงการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือการสนับสนุนงานวิจัยในระดับห้องทดลอง หากแต่เป็นการ “ยกระดับ” ผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ไปสู่การใช้งานจริง เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และเพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนทั่วประเทศ
นางสาวณิศรา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการของ NEO กล่าวว่า
“ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่แข็งแกร่งในการเชื่อมโยงองค์ความรู้จากภาครัฐเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม โดย NEO จะนำนวัตกรรมที่ได้จากงานวิจัยมาพัฒนาและต่อยอดในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายในระดับชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน”
NEO ในฐานะบริษัทที่มีประสบการณ์กว่า 35 ปีในการพัฒนาสินค้า FMCG ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ได้ขับเคลื่อนองค์กรในฐานะ “Segment Creator” ที่เน้นนวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตลาด โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลาสติกรีไซเคิล การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ และการใช้พลังงานสะอาด
วว. หนุนเต็มที่ ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ภาคปฏิบัติ
ทางด้าน ดร.พัชทรา มณีสินธุ์ รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา วว. กล่าวว่า ความร่วมมือกับ NEO เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ วว. ที่มุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปสู่ภาคเอกชนและชุมชนอย่างเป็นระบบ
“โครงการนี้ครอบคลุมตั้งแต่การฝึกอบรม การสร้างเครือข่าย ไปจนถึงการพัฒนาต้นแบบของการจัดการขยะและน้ำเสียแบบครบวงจรในระดับชุมชน รวมถึงการแปรรูปขยะให้มีมูลค่าเพิ่ม ทั้งขยะพลาสติก ขยะอินทรีย์ และการพัฒนา ‘วัตถุดิบรอบสอง’ ที่สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างมีคุณภาพ”
วว. มองว่าการบริหารจัดการขยะและของเสียในมิติเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือความท้าทายร่วมที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่แค่เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตไทย ลดต้นทุน สร้างงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการผลิตอย่างเป็นรูปธรรม
ขับเคลื่อน ESG สู่เป้าหมาย Carbon Neutral ปี 2593
หัวใจของความร่วมมือครั้งนี้คือ การบูรณาการแนวคิด ESG ให้เกิดผลลัพธ์ในระดับชุมชนและประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิต การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ไปจนถึงการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนจากการจัดการของเสีย
สำหรับ NEO การร่วมมือกับ วว. ครั้งนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ นั่นคือ การบรรลุ “Carbon Neutral” ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาครัฐและประชาคมโลก4
จากห้องวิจัยสู่หัวใจชุมชน
ความร่วมมือระหว่าง NEO และ วว. จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “วิทยาศาสตร์เพื่อชุมชน” ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ แต่เป็นการส่งต่อความรู้ สู่นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้
เมื่อวิจัย วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม ถูกจับมือกับภาคเอกชนที่มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นย่อมมีผลกระทบในวงกว้าง ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงประเทศ และนั่นคือก้าวย่างที่สำคัญของประเทศไทยในการเข้าสู่ยุคใหม่ของ “เศรษฐกิจสีเขียว” อย่างแท้จริง


