DKSH ปฏิวัติโลจิสติกส์เครื่องมือแพทย์ ด้วย AI: ส่งเร็ว ทั่วไทย

ในยุคที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุและมีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและนวัตกรรมทางการแพทย์ระดับภูมิภาค ความต้องการเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นหัวใจสำคัญ

DKSH (ประเทศไทย) ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านโซลูชันการดูแลสุขภาพและผู้นำด้านการขยายตลาด ได้เดินหน้ายกระดับการเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ทั่วประเทศ ผ่านการขยายโมเดลศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาค (Satellite Distribution Center) พร้อมผสานเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านสาธารณสุขที่เปลี่ยนแปลงไป
 

ขยายเครือข่ายกระจายสินค้า สร้างมาตรฐานใหม่ของความรวดเร็ว

นายกุลชนม์ ยิ่งชัยยะกมล ผู้จัดการทั่วไป แผนก Client Management ฝ่ายธุรกิจเฮลธ์แคร์อัลลายแอนซ์ – กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ของ DKSH ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างศักยภาพด้านการกระจายสินค้าในประเทศ เนื่องจากเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทยยังคงพึ่งพาการนำเข้ากว่า 70% การขยายเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการปฏิรูประบบสาธารณสุข

DKSH ได้ปรับเปลี่ยนจุดรับส่งสินค้าทั้ง 9 แห่งทั่วประเทศให้เป็นโมเดล "ศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาค" โดยเริ่มจากภาคเหนือเป็นแห่งแรก

ซึ่งนายวรพงษ์ สุรชัยกุลวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส แผนก Supply Chain Management หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า

"จากเดิมที่เราขับรถจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ 10 กว่าชั่วโมง ตอนนี้เมื่อมีสินค้าอยู่ที่เชียงใหม่ การจัดส่งไปถึงโรงพยาบาลในเชียงใหม่ใช้เวลาเพียง 15 นาที ซึ่งเร็วกว่าเดิมกว่า 90%" นี่คือการสร้างมาตรฐานใหม่ในการให้บริการที่รวดเร็ว ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที โดย DKSH มั่นใจว่าสามารถครอบคลุมการให้บริการแก่โรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ได้มากกว่า 95% ทั่วประเทศ"

การผสานเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนความสำเร็จนี้คือการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยนายวรพงษ์เน้นย้ำว่า DKSH มีการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

"เราพยายามนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้มากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยเรื่องความเร็วแล้ว ยังช่วยเรื่องความแม่นยำด้วย" ระบบจัดการสินค้าแบบดิจิทัลแบบเรียลไทม์ และระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยที่ศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ เช่น ศูนย์กระจายสินค้าคลังศรีเพชร, ศูนย์กระจายสินค้าเครื่องมือแพทย์, และศูนย์กระจายสินค้าศรีวรินทร์ ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน

การใช้ AI และ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ในการจัดการโลจิสติกส์ของ DKSH ไม่เพียงแค่ช่วยลดระยะเวลาในการจัดส่ง แต่ยังรวมถึง

การเพิ่มความแม่นยำ (Accuracy): ระบบอัตโนมัติช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ในการจัดการสินค้า ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องมือแพทย์ที่ถูกต้องจะถูกส่งไปยังปลายทางอย่างแม่นยำ

การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics): AI สามารถประมวลผลข้อมูลการจัดส่งในอดีต เพื่อคาดการณ์ความต้องการในอนาคต และปรับปรุงเส้นทางการจัดส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

การติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ (Real-time Tracking): ระบบดิจิทัลช่วยให้สามารถติดตามสถานะของสินค้าได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ออกจากคลังจนถึงมือผู้รับ ทำให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้อย่างรวดเร็ว

ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพที่ซับซ้อน

นายแพทริค แกรนเด หัวหน้าฝ่าย Commercial Outsourcing ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ Cluster Head DKSH Healthcare กล่าวว่า "การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ช่วยให้สามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที" การขยายโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะของ DKSH ไม่เพียงแต่สนับสนุนยุทธศาสตร์ Medical & Wellness Hub ของประเทศไทย แต่ยังสะท้อนถึงพันธกิจในการส่งมอบการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนไทยทุกคน

ด้วยพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมกลุ่มโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ, จักษุวิทยา, และภาวะเบาหวาน DKSH ทำงานร่วมกับโรงพยาบาลและผู้ให้บริการทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วย โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ได้รับการดูแลรักษาที่ทั่วถึงและรวดเร็วขึ้น การอบรมและเวิร์คช็อปสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ก็เป็นสิ่งที่ DKSH ให้ความสำคัญอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมือแพทย์จะถูกใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

อนาคตของธุรกิจเครื่องมือแพทย์ไทย

การลงทุนในเทคโนโลยีโลจิสติกส์ที่ทันสมัยของ DKSH ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของธุรกิจเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย และยังเป็นการตอกย้ำบทบาทของ DKSH ในฐานะผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและผู้นำตลาด ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เกือบ 120 ปีในประเทศไทย DKSH พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการยกระดับระบบสาธารณสุขไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืนอย่างแท้จริง