MBS ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ ขนส่งแทนคน24/7 ต้นแบบ Entertainment Complex ยุคใหม่

Marina Bay Sands (MBS) ศูนย์รวมความบันเทิงระดับโลกในสิงคโปร์ ยกระดับการบริหารจัดการงานหลังบ้านด้วยการเปิดตัวกองทัพหุ่นยนต์ขนส่งอัตโนมัติ (Autonomous Mobile Robots: AMRs) จำนวน 12 ตัว ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่ขนส่งภายในพื้นที่โรงแรม ศูนย์การประชุมและนิทรรศการอย่างมีประสิทธิภาพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในกลุ่มธุรกิจ Entertainment Complex ที่ให้ความสำคัญกับทั้งประสบการณ์ลูกค้าและประสิทธิภาพหลังบ้าน

ก่อนหน้านี้ MBS ต้องใช้พนักงานในการทำงานขนส่งมากกว่า 200 เที่ยวต่อวัน ครอบคลุมกว่า 80 เส้นทางทั่วทั้งรีสอร์ทตลอด 24 ชั่วโมง แต่ด้วยการนำ AMRs มาใช้งาน จึงสามารถลดการพึ่งพาแรงงานคนลงได้ถึง 30% ขณะเดียวกันยังสามารถรองรับปริมาณงานขนส่งที่เพิ่มขึ้นถึง 35% ระหว่างปี 2019–2035 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ หุ่นยนต์ AMR แต่ละตัวสามารถบรรทุกน้ำหนักได้สูงถึง 300 กิโลกรัม และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 84 เมตรต่อนาที ครอบคลุมเส้นทางที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า 20 เส้นทาง โดยติดตั้งระบบเลเซอร์เพื่อความปลอดภัยที่สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวาง และปรับเส้นทางได้อย่างชาญฉลาด เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ใช้งานร่วมกับมนุษย์

นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว MBS ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะแรงงาน โดยมีการปรับบทบาทของทีมงานในฝ่ายจัดซื้อและซัพพลายเชนจากเดิมที่ต้องลงแรงในงานขนส่ง มาทำงานที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เช่น การบริหารจัดการคลังสินค้า และการควบคุมหุ่นยนต์ เพื่อให้แน่ใจว่าการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการทำงานจริงเป็นไปอย่างราบรื่น

ชิจิต ปราทาปัน (Shijith Prathapan) รองประธานฝ่ายจัดซื้อและซัพพลายเชนของ MBS กล่าวว่า

“การบริหารศูนย์กลางความบันเทิงขนาดใหญ่อย่าง Marina Bay Sands จำเป็นต้องมีการวางแผนกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ เรามุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมแห่งผลิตภาพมาตั้งแต่วันแรก ด้วยการลงทุนในนวัตกรรม และเราจะเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ช่วยยกระดับกระบวนการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่อง”

ปัจจุบัน MBS ได้ปรับใช้ระบบอัตโนมัติในกระบวนการทำงานมากกว่า 200 รายการครอบคลุมหลายแผนก ส่งผลให้สามารถนำเวลาทำงานของพนักงานกว่า 162,000 ชั่วโมงต่อปีไปใช้ในงานที่มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างต้นแบบของ Entertainment Complex แห่งอนาคต

กรณีของ Marina Bay Sands แสดงให้เห็นว่า Entertainment Complex ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหรือจัดอีเวนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านการจัดการ การผสานเทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์อัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูล และระบบอัจฉริยะต่าง ๆ ทำให้สามารถบริหารพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และเสริมสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

โมเดลนี้อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่มีการผลักดันโครงการ Entertainment Complex เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และ Soft Power ไทยในระดับสากล การลงทุนในระบบหลังบ้านที่ชาญฉลาดเช่นนี้ จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่น ทั้งสำหรับผู้ใช้บริการและบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้ในระยะยาว

ภาพและข้อมูลจาก IAG (Inside Asean Gambling)