สกพอ. ผนึกกำลังจีน ดึงลงทุน 6.4 หมื่นล้านบาทใน EEC ดิจิทัล-EV มาแรง

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และสมาคมการค้าส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-จีน (SIDTA) ประสบความสำเร็จในการจัดงาน "Investment Attraction Forum 2025 ครั้งที่ 1" ณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และเดินหน้าประชาสัมพันธ์ รวมถึงชักชวนการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีนักธุรกิจจีนเข้าร่วมงานกว่า 100 ราย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจใน EEC

 

 

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้ให้เกียรติเข้าร่วมและบรรยายพิเศษในหัวข้อ "Thailand EEC 2025: Opportunities in the New Growth Corridor Forum" เพื่อนำเสนอโอกาสการลงทุนและแสวงหาความร่วมมือในอุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC แก่นักลงทุนจีน พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ ความสามารถในการแข่งขัน และระบบนิเวศการลงทุนที่เอื้ออำนวยใน EEC

 

กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และกลุ่มอุตสาหกรรมบริการและการแพทย์มาแรง

จากการจัดงานครั้งนี้ มีบริษัทจีนหลายแห่งแสดงความสนใจอย่างยิ่งและแจ้งความประสงค์ในการยื่นหนังสือแสดงเจตจำนงการลงทุน (LOI) โดยครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และกลุ่มอุตสาหกรรมบริการและการแพทย์ ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในพื้นที่อีอีซี 
ประมาณ 64,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปีแรกของการลงทุน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจ้างงาน การถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี การเติบโตทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนในพื้นที่ และการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

 

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการสนับสนุน ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนของนักลงทุนจีนและนักลงทุนต่างชาติในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่าง สกพอ. โดย ดร.จุฬา สุขมานพ และสมาคม SIDTA โดย นายจงหลิน กัว, นายกสมาคมการค้าส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-จีน โดยมี นางสาวปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และ ดร.ภัณฑิล จงจิตรตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมและติดตามการลงทุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

 

 

ภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว สกพอ. และสมาคม SIDTA จะร่วมกันสนับสนุนการลงทุนใน EEC จากนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างโอกาสเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

ภาพรวมการลงทุนของจีนใน EEC และประเทศไทยล่าสุด

ข้อมูลล่าสุดจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ชี้ให้เห็นว่าการลงทุนของจีนใน EEC และประเทศไทยโดยรวมยังคงมีบทบาทสำคัญและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง:

 

ภาพรวมการลงทุนใน EEC ปี 2567: ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-ตุลาคม) มีนักลงทุนต่างชาติ 251 รายเข้ามาลงทุนใน EEC คิดเป็น 32% ของนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 45,739 ล้านบาท (ประมาณ 1.32 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งจีนเป็นผู้ลงทุนอันดับสองรองจากญี่ปุ่น โดยมีบริษัทจีน 59 แห่ง ลงทุนมูลค่า 232 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

ภาพรวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของ BOI ในปี 2567: BOI รายงานว่าในปี 2567 การขอรับการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยโดยรวมเพิ่มขึ้น 35% แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยมูลค่า 1.14 ล้านล้านบาท (ประมาณ 3.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ)

 

โดยมีโครงการลงทุนกว่า 3,100 โครงการ ซึ่งภาคดิจิทัล นำโดยศูนย์ข้อมูลและบริการคลาวด์ เป็นอันดับหนึ่งในแง่มูลค่า การลงทุนจากจีนอยู่ในอันดับสองรองจากสิงคโปร์ในแง่ของจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติ โดยมี 810 โครงการ มูลค่า 174.6 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในแผงวงจรพิมพ์ (Printed Circuit Boards), ยานยนต์ และผลิตภัณฑ์โลหะ

 

ส่วนแนวโน้มภาคอุตสาหกรรม การลงทุนของจีนใน EEC และประเทศไทยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (S-Curve) ที่รัฐบาลให้การส่งเสริม เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, ดิจิทัล, และการแพทย์ รวมถึงการลงทุนในภาคส่วนพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐาน

 

ทั้งนี้ การจัดงาน Investment Attraction Forum 2025 ในนครเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการตอกย้ำความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนใน EEC ให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในระยะยาว