“ณรงค์ชัย” ชวนนักธุรกิจคาสิโนโลกถกความพร้อมเทคโนโลยีไทยในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ
หนึ่งในประเด็นที่สังคมสงสัย คือความพร้อมของไทยในการรับมือกับปัญหาสังคมและการฟอกเงินคาสิโนใน "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ก็คือความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเทตโนโลยีของไทย!
ภายในงานเสวนาโต๊ะกลมว่าด้วยสถานบันเทิงครบวงจรของไทย หรือ Thailand Entertainment Complex Roundtable (TECR) โดยกลุ่ม IAG คำถามที่น่าสนใจจาก ดร.ณรงค์ชัย ใหญ่สว่าง อาจารย์ประจํามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และนักวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์ ที่ขอความเห็นจากกลุ่มนักธุรกิจอุตสาหกรรมบันเทิงและคาสิโนระดับโลกที่มาร่วมงานอาทิ นายเจฟฟรีย์ สจ๊วร์ต เดวิส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และหัวหน้าฝ่ายการเงิน Melco Resorts & Entertainment Limited และ นายคริสโตเฟอร์ เอ็ม กอร์ดอนประธาน Wynn Resorts Development ก็คือประเด็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี
โดย ดร.ณรงค์ชัย ได้เปิดประเด็นว่า
"ผมอยากจะขอสอบถามในประเด็นที่ผมพูดไปตอนต้นว่า รัฐบาลไทยควรเรียนรู้จากประเทศที่มีประสบการณ์อย่างไร เพราะที่ผ่านมาเรายังไม่มีประสบการณ์ตรง อย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเขามีโครงสร้างทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่แข็งแรงมาก
เรื่องของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น การควบคุมการเข้าออกด้วยระบบจดจำใบหน้า หรือเวลาสมัครบัตรเครดิต ระบบก็สามารถประเมินเครดิตจากข้อมูลส่วนบุคคลได้ทันที โดยไม่ต้องดูสเตทเม้นท์อีกแล้ว
...
ประเทศไทยมีตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีลักษณะนี้หรือไม่ โดยเฉพาะในการควบคุมดูแลอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เช่น การเข้าคาสิโน ระบบจะรู้เลยว่าคุณเล่นเยอะไหม มีรายได้เท่าไหร่ ในบางประเทศ ผมสามารถเล่นพนันออนไลน์ได้อย่างถูกกฎหมาย และถ้าเล่นเสียมาก ระบบจะมีการควบคุมโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันผลกระทบด้านการเงิน ผมจึงอยากทราบว่าเรามีเทคโนโลยีแบบไหนที่สามารถนำมาปรับใช้ในเรื่องนี้ได้บ้างครับ"
โดยนายเจฟฟรีย์ สจ๊วร์ต เดวิส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และหัวหน้าฝ่ายการเงิน Melco Resorts & Entertainment Limited ตอบว่า "ครับ อย่างที่คุณกล่าวไว้ เทคโนโลยีสามารถช่วยเรื่องความปลอดภัยและการบริหารจัดการได้ โดยเฉพาะการใช้ Blockchain และระบบ Data Privacy ที่สามารถตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรมได้โดยไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และในอนาคตแนวโน้มจะไปในทางที่เราสามารถสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เยาวชน หรือผู้บริโภคทั่วไปผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้"
ทั้งนี้ ประเด็นด้านเทคโนโลยีที่กล่าวถึงในงาน TECR คือ เทคโนโลยีในการบริหารจัดการอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก โดยวิทยากรได้ยกตัวอย่างการจัดอีเวนต์ในสิงคโปร์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น
- ระบบการจัดการรีสอร์ตแบบดิจิทัล
- การบริหารข้อมูลด้วยระบบศูนย์กลาง (Centralized Data Management)
- เทคโนโลยีที่ช่วยให้การดำเนินงานในภาคบันเทิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
AI และระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition)
โดยยกตัวอย่างว่า ในอนาคตการเข้าใช้บริการต่าง ๆ เช่น คาสิโน หรือสถานบันเทิง สามารถใช้ AI และการจดจำใบหน้าเพื่อตรวจสอบว่า
- ผู้ใช้เป็นใคร
- มีประวัติทางการเงินเป็นอย่างไร
- อยู่ในฐานะที่ควรจะใช้บริการหรือไม่
- เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การควบคุมภาคบันเทิงเป็นไปอย่างปลอดภัยและโปร่งใส
การเข้าถึงข้อมูลทางการเงินและเครดิตอย่างแม่นยำ
ยกตัวอย่างจากระบบเครดิตบูโร:
- ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องยื่นสเตทเม้นต์หรือเอกสาร
- ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเครดิตจากฐานข้อมูลดิจิทัลได้ทันที
- ช่วยลดความเสี่ยงและความยุ่งยากในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ
การใช้เทคโนโลยีเพื่อลดปัญหาการพนันหรือความเสี่ยงทางการเงิน
ในต่างประเทศมีการใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อติดตามพฤติกรรมการเล่นพนันของผู้ใช้แบบเรียลไทม์ เช่น
- หากผู้ใช้มีแนวโน้มจะเสียเงินมากเกินไป ระบบจะจำกัดวงเงินหรือแจ้งเตือนทันที
- หากผู้ใช้มีรายได้ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้จ่าย ระบบจะไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมบางอย่าง
- แนวทางนี้สามารถใช้กับกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การพนัน, เกมออนไลน์, หรือการซื้อขาย NFT
Blockchain และ Data Privacy
นายคริสโตเฟอร์ เอ็ม กอร์ดอนประธาน Wynn Resorts Development กล่าวว่าในอนาคตเทคโนโลยีอย่าง Blockchain จะเข้ามามีบทบาทในการบริหารข้อมูลอย่างโปร่งใส พร้อมเน้นย้ำเรื่อง Data Privacy หรือการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยใช้ระบบที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้ใช้แต่ยังสามารถควบคุมได้ตามกฎหมาย
เทคโนโลยีเพื่อพื้นที่ปลอดภัย (Safe Digital Zones)
ยกตัวอย่างเช่น การสร้างพื้นที่ความบันเทิงที่ “ปลอดภัย” สำหรับเด็กและเยาวชน โดยใช้เทคโนโลยีในการกรองหรือควบคุมเนื้อหาหรือบริการ เช่น การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึง, ระบบคัดกรองตามอายุ, การตรวจสอบอัตลักษณ์
ข้อเสนอแนะสำคัญจากผู้ร่วมเสวนา
- รัฐบาลไทยควรเรียนรู้จากประเทศที่ใช้เทคโนโลยีอย่างมีกลยุทธ์ เช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ โดยเน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลและระบบอัจฉริยะ
- ควรมี Sandbox หรือ Regulatory Framework ที่อนุญาตให้เอกชนและรัฐสามารถทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย


