โซลาร์เซลล์ไม่ติดล็อก! พลังงานแจง พ.ร.บ.โซลาร์ “ไม่รวบอำนาจ” แค่ “ลดขั้นตอน"
ร่าง พ.ร.บ.โซลาร์เซลล์ เดินหน้าสู่กฎหมายจริง เปลี่ยน “ขออนุญาต” เป็น “แจ้ง” ย้ำไม่รวบอำนาจ-เอื้อต่อประชาชนและผู้ประกอบการ เผยยอดรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คึกคัก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสนใจในพลังงานทางเลือกโดยเฉพาะ “พลังงานแสงอาทิตย์” หรือโซลาร์เซลล์ ได้กลายเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนจับตามอง ไม่ใช่เพียงเพราะความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังรวมถึงความจำเป็นในการลดต้นทุนพลังงานในระดับครัวเรือนและอุตสาหกรรม ท่ามกลางราคาพลังงานที่ผันผวนและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หนึ่งในความเคลื่อนไหวสำคัญที่สอดรับกับแนวโน้มนี้ คือการจัดทำ “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ….” โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ภายใต้กระทรวงพลังงาน ซึ่งเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ระหว่างวันที่ 15–30 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พพ. ได้ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบข้อกังวลและข่าวคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมา
พ.ร.บ. โซลาร์เซลล์ ฉบับแรกของไทย
แนวคิดในการผลักดัน พ.ร.บ. ฉบับนี้เกิดจากความพยายามในการรวบรวมหลักเกณฑ์ กฎระเบียบ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ที่ในอดีตต้องดำเนินการผ่านหลายหน่วยงาน มีขั้นตอนยุ่งยากและซ้ำซ้อน โดยเฉพาะกรณีผู้ประกอบการรายย่อยหรือประชาชนที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง (self-consumption)
แม้ที่ผ่านมารัฐบาลได้ส่งเสริมการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในหลายรูปแบบ เช่น โครงการโซลาร์ภาคประชาชน หรือการเปิดให้ขายไฟคืนเข้าระบบ (Net Metering) แต่ยังไม่มีกรอบกฎหมายเฉพาะที่รองรับอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การเติบโตของตลาดโซลาร์ในภาคครัวเรือนและ SME ยังเผชิญกับอุปสรรคหลายด้าน ทั้งต้นทุนมาตรฐาน และความไม่ชัดเจนในเรื่องสิทธิ์และการดูแลความปลอดภัย
สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ใหม่ ไม่ใช่ “รวบอำนาจ” แต่คือ “อำนวยความสะดวก”
นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดี พพ. ชี้แจงว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการ ลดขั้นตอน และ ลดภาระค่าใช้จ่าย ของประชาชน โดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนระบบจากการ “ขออนุญาต” ซึ่งต้องผ่านหลายด่าน เป็นระบบ “แจ้งและรับรองตนเอง” ผ่านหน่วยงานกลาง คือ พพ. ในลักษณะ One Stop Service เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น
ร่าง พ.ร.บ. ยังเน้นการกำกับดูแล มาตรฐานอุปกรณ์และการติดตั้ง โซลาร์เซลล์ เพื่อให้ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ลดความเสี่ยงจากการใช้เทคโนโลยีที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ และยังรองรับการเติบโตของโครงข่ายไฟฟ้าที่เชื่อมโยงพลังงานหมุนเวียนเข้ากับระบบหลักของประเทศอย่างมั่นคง
“แม้ว่าก่อนหน้านี้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะมีผู้เข้าใจผิดว่าเป็นกฎหมายรวบอำนาจ ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น หรือเป็นการลิดรอนสิทธิ์ผู้ต้องการติดตั้ง ซึ่งผมขอชี้แจ้งว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
อาทิในประเด็นคลาดเคลื่อน เช่น
- “รวบอำนาจ” นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีการเปลี่ยนจากระบบ “ขออนุญาต” เป็น “ระบบแจ้งและรับรองตนเอง”
- การกำหนดนิยาม “อุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์” หรือ “สถานที่ติดตั้ง” ก็เป็นไปเพื่อให้เกิดความชัดเจน ในการบังคับใช้กฎหมาย ป้องกันมิให้เกิดปัญหาในการตีความ รวมทั้งสามารถรองรับสิ่งอื่นที่อาจมีเพิ่มเติมในอนาคตได้
- กรณีการขายไฟฟ้าภายในที่อยู่อาศัยนั้น โดยเฉพาะเรื่องราคานั้น ยังต้องอยู่ภายใต้กรอบตามมติ กพช.
- การที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบระบบพลังงานแสงอาทิตย์ในที่พักอาศัย เป็นเพียงการดำเนินการสนับสนุนการตรวจตราการติดตั้งให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ไม่ใช่การให้อำนาจเกินขอบเขตแต่อย่างใด
ผลกระทบในระยะยาว โอกาสใหม่ของเศรษฐกิจพลังงานสะอาด
เมื่อร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้รับการผลักดันเข้าสู่การพิจารณาในระดับนิติบัญญัติแล้ว จะเป็นการวาง “กรอบกฎหมายแม่บท” ที่รองรับการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในทุกระดับ ทั้งภาคประชาชน SME และอุตสาหกรรม ช่วยให้เกิด ตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ที่เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย ซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ยังคาดว่าจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น อุปกรณ์โซลาร์เซลล์ การผลิตพลังงานในระดับชุมชน และบริการติดตั้งที่มีมาตรฐาน สอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าอย่างจริงจัง
ก้าวต่อไป ฟังเสียงประชาชนอีกครั้งก่อนเข้าสู่กระบวนการร่างกฎหมาย
พพ. ยืนยันว่า ความคิดเห็นที่ได้รับจากการเปิดรับฟังครั้งแรกจะถูกนำไป ปรับปรุงสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. และเตรียมเปิดวงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะอีกครั้ง ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการร่างกฎหมายในชั้นคณะรัฐมนตรีและสภาฯ ต่อไป
“เราต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ เป็นกฎหมายที่ทุกฝ่ายยอมรับ และเกิดประโยชน์ต่อคนไทยทั้งประเทศอย่างแท้จริง” พพ. กล่าวทิ้งท้าย
สรุป
ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. … ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคนิคหรือขั้นตอนราชการ หากแต่เป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการ สร้างระบบพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน เข้าถึงง่าย และเป็นธรรม สำหรับทุกคน


