พลังงานชูนำเข้า LNG อะแลสกา หนุนมั่นคง-ลดต้นทุนค่าไฟ Data Center

วันนี้ (2 มิ.ย. 2568) กระทรวงพลังงานยืนยันว่า การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากแหล่งอะแลสกา สหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีศักยภาพในการเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ พร้อมช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และสนับสนุนการลงทุนด้านเทคโนโลยี เช่น Data Center และอุตสาหกรรมอนาคต
 

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ไทยจำเป็นต้องเพิ่มการนำเข้า LNG เนื่องจากปัจจุบันพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้ากว่า 58% โดยก๊าซจากอ่าวไทยรองรับได้เพียงประมาณ 60% ของความต้องการ และมีแนวโน้มปริมาณลดลงในอนาคต

แหล่งอะแลสกา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสหรัฐฯ ถือเป็นแหล่งก๊าซขนาดใหญ่ มีปริมาณสำรองพิสูจน์แล้วกว่า 40 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีแผนส่งออก LNG มากกว่า 20 ล้านตันต่อปี ตั้งแต่ปี 2571 ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 80 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการสูงถึง 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
 

ข้อได้เปรียบของ LNG จากอะแลสกาคือราคาต้นทุนที่แข่งขันได้ การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย และระยะเวลาขนส่งสั้นกว่าจากแหล่งอื่น โดยสามารถส่งถึงไทยภายใน 10-15 วัน เทียบกับแหล่งตะวันออกกลางที่ใช้เวลา 20-35 วัน นอกจากนี้ โครงการยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยติดตั้งระบบดักจับและกักเก็บคาร์บอนในกระบวนการผลิต

“การจัดหา LNG จะเน้นที่ราคาถูกเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน และเอื้อต่อการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เช่น อุตสาหกรรม EV, AI, Cloud และการลงทุน Data Center” นายวีรพัฒน์กล่าว

ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างพิจารณาปริมาณการนำเข้า LNG จากอะแลสกา ในช่วง 2-5 ล้านตันต่อปี โดยขึ้นอยู่กับราคาและเงื่อนไขการเจรจา ซึ่งบริษัท LNG Shipper ของไทยกำลังหารือกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อผลักดันความร่วมมือในโครงการนี้ต่อไป