เสียงเตือนจากวงใน ! ร่างกฎหมายโซลาร์ฯ เสี่ยงเปิดช่องรวบอำนาจ

ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญความวุ่นวายทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ กระทรวงพลังงานและกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กำลังผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่ 30 พฤษภาคมนี้

ฟังดูเผิน ๆ ร่างกฎหมายฉบับนี้ควรเป็น "พระเอก" ที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภาวะที่ต้นทุนพลังงานยังสูงและกระบวนการขออนุญาตยุ่งยากเกินจำเป็น

แต่เมื่ออ่านเนื้อหาอย่างละเอียด กลับพบว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ ให้อำนาจข้ามหัวประชาชนและภาคเอกชน อย่างน่ากังวล โดยเฉพาะอำนาจมหาศาลที่ถูกรวมไว้ในมือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่เพียงผู้เดียว
 

ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ให้อำนาจอะไรกับ รมว. พลังงานบ้าง?

กำหนดพื้นที่และสถานที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ตามดุลยพินิจ
กำหนดประเภทอุปกรณ์ที่จะใช้ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์
แต่งตั้งบุคคล/องค์กรใดก็ได้เป็นผู้เชื่อมต่อระบบไฟฟ้าแทนหน่วยงานรัฐ เช่น การไฟฟ้าฯ
ประกาศรับซื้อไฟฟ้า และกำหนดราคาที่รับซื้อได้เอง
มีอำนาจส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหรือ รื้อถอนโซลาร์เซลล์ในที่อยู่อาศัย ได้ หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข

ไม่เพียงเท่านั้น อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนฯ ก็จะได้อำนาจเพิ่มขึ้นเช่นกัน ผู้ที่ต้องการติดตั้งโซลาร์จะต้องแจ้งความประสงค์ล่วงหน้า 30 วัน และปฏิบัติตามระเบียบที่ ยังไม่มีการประกาศใช้  อย่างเคร่งครัด
 

เสียงจากผู้ประกอบการ: ร่างกฎหมายนี้คืออุปสรรค ไม่ใช่ทางออก

ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส  อดีตนักการเมืองและผู้ประกอบการธุรกิจติดตั้งโซลาร์เซลล์ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้  ไม่เพียงไม่แก้ปัญหาเดิม  อย่างระบบราชการที่ล่าช้าและมีช่องให้คอร์รัปชัน แต่กลับเพิ่มอุปสรรคใหม่ และเปิดช่องให้การรวบอำนาจเกิดขึ้นในระบบพลังงานทดแทน

 “นี่คือการตีเช็คเปล่าให้คนไม่กี่คนมีอำนาจเหนือทั้งระบบ โดยไม่มีการถ่วงดุลหรือตรวจสอบจากภายนอก” ตรีรัตน์กล่าว

เขายังตั้งคำถามว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นการส่งเสริมพลังงานสะอาดเพื่อประชาชนจริงหรือ เป็นเพียงเครื่องมือเพิ่มอำนาจให้คนในรัฐบาล?

ชวนประชาชนร่วมแสดงความเห็น ก่อนหมดเขตรับฟัง 30 พ.ค.นี้

ตรีรัตน์ประกาศจุดยืน คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นกระบอกเสียง ผ่านเว็บไซต์

ผู้สนใจสามารถอ่านร่างกฎหมายฉบับเต็มได้ที่นี่