นิสสันยุบ 7 โรงงานแห่งทั่วโลก เลิกจ้าง 2 หมื่นคน หลังขาดทุนหนัก

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงาน : บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์ทางการเงินของบริษัท หลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท) สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2025
 

ปรับโครงสร้างเพื่อความอยู่รอด-ยังไม่เผยชื่อโรงงานที่ถูกปิด

นายอีวาน เอสปิโนซา ประธานและซีอีโอคนใหม่ของนิสสัน ซึ่งเข้ามาแทนที่นายมาโคโตะ อุชิดะเมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้ประกาศมาตรการลดต้นทุนครั้งใหญ่ ประกอบด้วย

- การยุบโรงงานผลิต 7 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งทั่วโลก เหลือเพียง 10 แห่ง โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อโรงงานที่จะถูกปิด
- การเลิกจ้างพนักงานรวม 20,000 คนทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมที่จะเลิกจ้าง 9,000 คน
- ลดความซับซ้อนของชิ้นส่วนลง 70% 
- ลดกำลังการผลิตที่ไม่ได้ใช้งานจาก 30% ให้เกือบเป็นศูนย์

"ผลประกอบการประจำปีของเราถือเป็นการเตือนสติ ความจริงนั้นชัดเจนมาก ต้นทุนผันแปรของเรากำลังเพิ่มขึ้น ต้นทุนคงที่ของเราสูงกว่าที่รายได้ปัจจุบันของเราจะรองรับได้" นายเอสปิโนซากล่าวในการแถลงข่าว
 

สาเหตุของวิกฤต

สถานการณ์ขาดทุนของนิสสันเกิดจากหลายปัจจัย

1. ยอดขายลดลงอย่างมากในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกาและจีน
2. การเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้าล้มเหลว ทำให้เสียเวลาสำคัญไปโดยเปล่าประโยชน์
3. การแข่งขันอย่างรุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
4. ความผิดพลาดในอดีตที่เน้นปริมาณการขายมากเกินไปและใช้ส่วนลดจำนวนมากเพื่อระบายสินค้า

ผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

หนึ่งในความท้าทายสำคัญของนิสสันคือการเผชิญกับนโยบายภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐอเมริกา สหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของนิสสัน โดยบริษัทขายรถได้ประมาณ 900,000 คันในปีที่ผ่านมา แต่ผลิตได้เพียง 500,000 คันในประเทศ 

การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำหนดอัตราภาษีนำเข้าที่ 25% ส่งผลให้นิสสันมีทางเลือกที่ยากลำบาก:
- ต้องยอมรับต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งกระทบกำไร หรือ
- ผลักภาระภาษีไปยังผู้บริโภค ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและความมั่นใจของผู้บริโภค

เป้าหมายการฟื้นฟู

นายเอสปิโนซาตั้งเป้าว่าแผนปรับโครงสร้างครั้งนี้จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้ถึง 500,000 ล้านเยน (ประมาณ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าแผนเดิมของซีอีโอคนก่อนประมาณ 37.5%

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงตั้งเป้ายอดขาย 3.25 ล้านคันสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2026 ซึ่งไม่ต่างจากยอดขาย 3.3 ล้านคันในปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย แต่แผนปรับลดต้นทุนอย่างเข้มงวดจะช่วยให้บริษัทสามารถอยู่รอดได้แม้ยอดขายจะตกลงถึง 2.5 ล้านคัน

การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้ถือเป็นความพยายามครั้งสำคัญของนิสสันในการกลับมาสู่เส้นทางแห่งความยั่งยืนทางธุรกิจอีกครั้ง ท่ามกลางความท้าทายหลายประการในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก