โอกาสทอง “สถานบันเทิงครบวงจรไทย” สร้างเม็ดเงิน 5.25 แสนล้าน
IAG ชี้ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไทย” สร้างเม็ดเงินมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.25 แสนล้านบาท พร้อมกรณีศึกษา 3 ประเทศเพื่อนบ้าน
สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ในประเทศไทย ถือเป็นความหวังของรัฐบาลที่จะเข้ามาช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยและการท่องเที่ยว จึงเร่งผลักดันร่างกฎหมาย “สถานบันเทิงครบวงจร” สู่การพิจารณาของรัฐสภา
ล่าสุด บทวิเคราะห์จาก Inside Asian Gaming (IAG) ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในตลาดเกมระดับโลก อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรพิจารณาและความท้าทายที่รออยู่
รายได้รเล่นเกมรวม 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/ปี
ข้อมูลบทวิเคราะห์ของ IAG ระบุว่า "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ในกรุงเทพฯ มีศักยภาพสร้างรายได้จากการเล่นเกมรวม (GGR) สูงถึง 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 5.25 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งจะผลักดันให้ไทยเป็นหนึ่งในตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และรองรับการลงทุนขั้นต่ำ 1 แสนล้านบาท (3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขการวางเงินฝาก 50 ล้านบาทสำหรับคนไทย ที่ต้องการเข้าใช้บริการคาสิโน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการบรรลุเป้าหมายรายได้ เพราะจะจำกัดตลาดให้เหลือเพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยที่มีฐานะร่ำรวยเท่านั้น
3 บทเรียนจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน
ประเทศไทยมีโอกาสเรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากประเทศอื่นในภูมิภาค ดังนี้
- สิงคโปร์
ประสบความสำเร็จกับระบบค่าเข้าสำหรับคนท้องถิ่น (ปัจจุบันราว 150 ดอลลาร์สิงคโปร์) แต่มี GDP ต่อหัวสูงกว่าไทยมากถึง 11 เท่า (90,000 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับประมาณ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐของไทย)
- มาเก๊า
แสดงให้เห็นถึงศักยภาพมหาศาลของตลาดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีน แต่มีความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป
- ฟิลิปปินส์
พัฒนาอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีทั้งตลาดท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว แต่ยังต้องเผชิญความท้าทายในการควบคุมการดำเนินงานที่ผิดกฎหมาย
โอกาสการท่องเที่ยว-การจ้างงาน
Kevin Clayton ผู้บริหารระดับสูงจาก Galaxy Entertainment Group (GEG) คาดการณ์ว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเกือบ 40 ล้านคน ในปี 2568 และเชื่อว่าการมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ระดับโลกพร้อมสิ่งดึงดูดหลากหลาย จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้อีกมาก
ขณะที่ Bill Hornbuckle จาก MGM มองว่าค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและดำเนินงานในไทยจะต่ำกว่าหลายพื้นที่อื่น ซึ่งหมายถึงการจ้างงานและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นต่อการลงทุน นอกจากนี้ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะสร้างงานหลายพันตำแหน่งทั้งในระยะก่อสร้างและดำเนินการ เปิดโอกาสการจ้างงานที่มีคุณภาพ
เงื่อนไข 50 ล้าน อุปสรรคแก้ปัญหากาสิโนใต้ดิน
เหตุผลหลักที่รัฐบาลไทยผลักดันกาสิโนถูกกฎหมายคือ เพื่อจัดการกับคาสิโนใต้ดินที่แพร่หลายและลดการเดินทางไปเล่นพนันในต่างประเทศของคนไทย โดยคาดหวังว่าระบบที่ถูกกฎหมายจะสร้างทางเลือกที่ปลอดภัย มีการควบคุม เก็บภาษีได้ และบังคับใช้มาตรการการเล่นเกมอย่างมีความรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขเงินฝาก 50 ล้านบาทสำหรับคนไทย อาจขัดแย้งกับเป้าหมายเหล่านี้โดยตรง เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่สามารถเข้าถึงคาสิโนถูกกฎหมายได้ และอาจยังคงต้องพึ่งพาคาสิโนใต้ดินหรือเดินทางไปต่างประเทศ
Kevin Clayton จาก GEG เห็นด้วยกับการปกป้องกลุ่มเปราะบางและการมีมาตรการเล่นเกมที่รับผิดชอบ แต่ชี้ว่าการจำกัดการเข้าถึงเฉพาะคนรวยที่สุดจะเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและการเติบโตของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย
สมดุลผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ-ความรับผิดชอบต่อสังคม
ความสำเร็จระยะยาวของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย ขึ้นอยู่กับการสร้างสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และดึงดูดนักท่องเที่ยว กับการจัดการความกังวลทางสังคมเรื่องการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ
การกำหนดนโยบายและข้อบังคับที่สมดุล ถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางเศรษฐกิจมหาศาล โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสังคม และทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากโอกาสนี้
ที่มา - บทวิเคราะห์ของ Inside Asian Gaming (IAG) วันที่ 30 มี.ค.2568