รัฐบาลยัน “ท่าเรือสำราญเกาะสมุย" เสร็จแน่ปี 75 ดันไทยสู่ฮับเรือสำราญโลก
พลิกโฉมท่องเที่ยวอ่าวไทย สู่จุดหมายระดับโลก รัฐบาลยืนยัน “ท่าเรือสำราญขนาดใหญ่เกาะสมุย" แล้วเสร็จแน่ปี 75 ดันไทยสู่ฮับเรือสำราญระดับโลก
รัฐบาลไทยประกาศความคืบหน้าโครงการ “ท่าเรือสำราญขนาดใหญ่เกาะสมุย” จังหวัดสุราษฎร์ธานี หมุดหมายใหม่ที่จะพลิกโฉมหน้าการท่องเที่ยว และปักธงประเทศไทยบนแผนที่การท่องเที่ยวเรือสำราญระดับโลก
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการลงพื้นที่ของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ฝั่งอ่าวไทย
ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดสงขลาเมื่อเดือนที่ผ่านมา
โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับท่าเรือให้เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทย
คณะทำงานได้เริ่มต้นการลงพื้นที่ ณ ท่าเรือดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นท่าเรือเฟอร์รี่หลักที่เชื่อมต่อการเดินทางไปยังเกาะสมุย เจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่าได้ยืนยันถึงความพร้อมของท่าเรือในการรองรับนักท่องเที่ยว
ที่เดินทางมาจากฝั่งอันดามัน เช่น กระบี่ พังงา และภูเก็ต ซึ่งสามารถเดินทางข้ามฝั่งมายังอ่าวไทยได้อย่างสะดวกสบาย
จากนั้น คณะฯ ได้เดินทางไปยังเกาะสมุย เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในอนาคตอันใกล้นี้ และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2575
โครงการนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาจุดจอดเรือสำราญเพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย
เริ่มต้นจากท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ในจังหวัดสงขลา ต่อเนื่องมายังเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี และเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ในอ่าวไทย
เพื่อสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภูมิภาค
"รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคใต้ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มประสิทธิภาพของตำรวจท่องเที่ยว"
"รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการสร้างแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติในภูมิภาคอาเซียน"
"ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยเรือสำราญขนาดใหญ่จากสิงคโปร์ ผ่านสงขลา สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ไปยังพัทยา และประเทศต่างๆ ในฝั่งตะวันออกได้" - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์
ขณะที่ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเกาะสมุย นายอดูลย์ ระลึกมูล ได้รายงานความพร้อมในการดำเนินโครงการท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ ว่าเป็นไปตามแผนที่รัฐบาลกำหนดไว้
โดยคาดการณ์ว่าการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในปี 2572 และแล้วเสร็จในปี 2575 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่นิยมการเดินทางด้วยเรือสำราญระหว่างประเทศสามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากโครงการท่าเรือสำราญ คณะทำงานยังได้ติดตามประเด็นสำคัญอื่นๆ บนเกาะสมุย อาทิ การจัดการน้ำเสีย ซึ่งปัจจุบันเทศบาลนครเกาะสมุยเป็นผู้รับผิดชอบ
แต่ประสบปัญหาด้านงบประมาณ ที่ประชุมจึงได้ประสานงานกับองค์การจัดการน้ำเสีย กระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมกันจัดทำบ่อบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่
อีกประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาบนเกาะสมุย โดยพบว่าปริมาณความต้องการใช้น้ำมากกว่าปริมาณน้ำที่ส่งมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่ประชุมจึงได้ขอให้การประปาส่วนภูมิภาคพิจารณาเพิ่มท่อส่งน้ำ เพื่อให้เกาะสมุยมีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว พลตำรวจตรี ภพพล จักกะพาก ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวถึงปัญหาหลักบนเกาะสมุยและเกาะพะงัน
คือจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินกว่าจำนวนที่พักบนเกาะพะงัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้ ทำให้เกิดการเดินทางไป-กลับ และนำไปสู่อุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ตำรวจท่องเที่ยวจึงได้ร่วมมือกับกรมเจ้าท่าในการตรวจตราเรือโดยสารอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอุปกรณ์ความปลอดภัยและสัญญาณไฟ รวมถึงการตรวจสารเสพติดผู้ควบคุมเรืออย่างต่อเนื่อง


