ส่องแผนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ย้าย 3 บขส. ควบรวม “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์”

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาแนวทางการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2, สถานีขนส่งเอกมัย และสถานีขนส่งสายใต้ ไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะด้วยรถไฟไทย อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

ทำไมต้องควบรวม 3 บขส. มาไว้ที่ “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” ?

สำหรับเหตุผลและความจำเป็นในการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2, สถานีขนส่งเอกมัย และสถานีขนส่งสายใต้ ไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีดังนี้

• สนับสนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย: การย้ายสถานีขนส่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะรถไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง  จากปัจจุบันให้บริการในรถไฟฟ้าสายสีแดง, สายสีม่วง และจะครอบคลุมทุกสี ทุกสายภายในเดือนกันยายน 2568
• แก้ไขปัญหาการจราจร: การรวมสถานีขนส่งไว้ในที่เดียวจะช่วยลดปัญหาการจราจรในพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งเดิม (หมอชิต 2, เอกมัย, สายใต้)
• ยกระดับการให้บริการ: สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์มีความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบขนส่งที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยยกระดับบริการขนส่งสาธารณะของไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รูปแบบการพัฒนา ย้าย 3 บขส. มาไว้ที่ “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” 

เพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะระบบรางที่เชื่อมต่อในราคาค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายอย่างสะดวก นายสุริยะได้เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาไว้ ดังนี้

• ศึกษาโมเดลจากประเทศญี่ปุ่น: จะมีการศึกษาโมเดลจากสถานีขนส่งในประเทศญี่ปุ่น เช่น สถานีฮากาตะ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสถานีขนส่งแห่งใหม่ในประเทศไทยให้เหมาะสม
• ปรับพื้นที่อำนวยความสะดวก: ภายในสถานีฮากาตะ จะมีศูนย์อาหาร และแหล่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการอย่างครบถ้วน ซึ่งในแต่ละชั้น โดยจะแบ่งรถโดยสารแต่ละสายเส้นทาง แบ่งตามภูมิภาค และแบ่งจังหวัดอย่างชัดเจน คาดว่าจะนำแนวทางดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับไทยเช่นกัน
• พัฒนาอาคารสูง: แบ่งชั้นการให้บริการอย่างชัดเจน เช่น ชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินไปทางภาคใต้ และภาคตะวันตก, ชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินทางไปภาคเหนือ, ชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินทางไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และชั้นสำหรับผู้โดยสารเดินทางไปภาคตะวันออก และพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานคร (กทม.)
• ใช้ประโยชน์จากชั้นใต้ดิน: สถานีขนสางแห่งใหม่จะใช้ประโยชน์จากชั้นใต้ดินสำหรับให้รถเมล์ ขสมก. รวมถึงสำหรับรถแท็กซี่ เข้ามารับส่งผู้โดยสาร
• พื้นที่เชิงพาณิชย์: จะมีพื้นที่สำหรับร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของฝาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร นอกจากนี้จะทำการออกแบบเป็นสถานีขนส่งในรูปแบบอาคารสูง และกำหนดตำแหน่งที่ตั้งให้ใกล้กับสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ รวมถึงใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วน

*รายได้จากการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการ และซ่อมบำรุงรักษาตัวอาคารผู้โดยสารต่อได้*

ขั้นตอนการดำเนินงาน

1. สนข. ศึกษาแนวทาง: สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะทำการศึกษาแนวทางการย้ายสถานีขนส่ง ผลกระทบ งบประมาณ และการบริหารจัดการจราจรภายในและพื้นที่โดยรอบสถานี
2. เสนอของบประมาณ: สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะเสนอของบประมาณเพื่อจ้างที่ปรึกษามาทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและออกแบบเบื้องต้น
3. ศึกษาความเป็นไปได้: ที่ปรึกษาจะทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอย่างน้อย 12 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าการพัฒนาสถานีขนส่งแห่งใหม่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและไม่ทำให้เกิดปัญหาการจราจร

ระยะเวลาดำเนินงาน

คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนในการกำหนดแนวคิดรูปแบบการพัฒนาเบื้องต้น และอีกอย่างน้อย 12 เดือนในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการ ย้าย 3 บขส. ควบรวม “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์” 

• ประชาชน: ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้หลากหลาย และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
• การจราจร: ปัญหาการจราจรในพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งเดิมจะลดลง
• เศรษฐกิจ: การพัฒนาสถานีขนส่งแห่งใหม่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่โดยรอบ