posttoday

กรมสรรพสามิต จ่อเสนอครม.ใช้กลไกจัดเก็บภาษีคาร์บอน ไม่รอบังคับใช้พ.ร.บ.!

26 กันยายน 2567

สรรพสามิตเตรียมจัดเก็บภาษีคาร์บอนนำร่อง โดยไม่รอ พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ จากสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื่อมโยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จ่อนำเสนอครม.เพื่อพิจารณาเร็ววันนี้ พร้อมเปิดวิธีการคำนวนภาษีคาร์บอน

นางสาวรัชฎา วานิชกร ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต กล่าวในงานสัมมนา "Road to Net Zero: The Extraordinary Green” จัดโดยฐานเศรษฐกิจ วันนี้ (26 กันยายน 2567 ) ในประเด็น 'นโยบายการจัดเก็บภาษีคาร์บอน' ว่า ประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ 372 ล้านตันต่อปี โดยภาคที่มีการปล่อยก๊าซมากที่สุดคือภาคพลังงานและภาคขนส่ง รองลงมาเป็นภาคเกษตรกรรม เมื่อดูเป้าหมายใกล้ที่สุดคือปี 2030 ซึ่งต้องการที่จะลดการปล่อยคาร์บอนลงมาให้ได้ 30-40% ที่ได้ให้คำสัญญากับนานาชาติไว้นั้น เราต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ซึ่งก็เหลือเวลาแค่เพียง 6 ปี เพราะหากไม่ได้ทำอะไรเลยคาดว่าในปี 2030 ประเทศไทยจะปล่อยก๊าซคาร์บอนเพิ่มขึ้นแทนที่จะน้อยลงอยู่ที่ราว 555 ล้านตัน

 

ดังนั้น 6 ปีที่จะถึงนี้กลไกราคาคาร์บอนจึงจะมีส่วนสำคัญ ซึ่งกลไกภาคบังคับในเรื่องของการจัดเก็บภาษีคาร์บอนตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตรียมเสนอเป็นกฎหมายนั้น อาจจะยังไม่เกิดขึ้นใช่วงเวลาดังกล่าว

 

ฉะนั้น ทางกรมสรรพสามิตจึงกลับมาคิดว่าในช่วงปี 2024-2029 ซึ่งเป็นระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ทางกรมจะมีการใช้กลไกของกฎหมายปัจจุบัน นั่นคือพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตเข้ามาสร้างกลไกราคาคาร์บอน เพื่อใช้นำร่องไปก่อน เนื่องจากในช่วงปีดังกล่าวยังไม่มีกลไกราคาคาร์บอนภาคบังคับ

 

กรมสรรพสามิต จ่อเสนอครม.ใช้กลไกจัดเก็บภาษีคาร์บอน ไม่รอบังคับใช้พ.ร.บ.!

 

  • วิธีการเก็บภาษีจากกลไกของสรรพสามิต

 

ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต กล่าวอีกว่า กรมสรรพสามิตได้เสนอให้มีการใช้กลไกของ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต เป็นการเก็บภาษีคาร์บอนนำร่องไปพลาง ก่อนที่กฎหมายใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยการเก็บภาษีของสินค้าที่ปล่อยมลพิษสูงและอยู่ในพิกัดสรรพสามิต อาทิ น้ำมันดีเซล แอลพีจี และน้ำมันเบนซิน

ทั้งนี้ จากการศึกษากรณีตัวอย่างในต่างประเทศในการคำนวณกลไกราคาคาร์บอน โดยการนำสินค้าเชื้อเพลิงจำนวนเท่ากันไปเผาไหม้แล้วบันทึกปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยออกมา ซึ่งเชื้อเพลิงแต่ละชนิดมีความสะอาดไม่เท่ากัน และได้ค่าคาร์บอนต่างกัน

โดยเบื้องต้นภาครัฐได้มีการกำหนดราคาคาร์บอนเป็นราคาเดียว ซึ่งยุโรปราคาคาร์บอนสูงกว่า 100 ดอลลาร์ ญี่ปุ่นอยู่ที่ 3 ดอลลาร์ สิงคโปร์จากเริ่มต้น 5 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเป็น 25 ดอลลาร์ ส่วนประเทศไทยยังไม่กำหนด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา เบื้องต้น กำหนดไว้ที่ 200 บาท หรือประมาณ 6 ดอลลาร์

 

”เมื่อนำราคาคาร์บอนไปคำนวณกับปริมาณเชื้อเพลิงก็จะได้ออกมาเป็นกลไกราคาคาร์บอนที่อยู่ในเชื้อเพลิงแต่ละประเภท ซึ่งที่ปล่อยคาร์บอนมากที่สุดคือ LPG รองลงมาเป็นน้ำมั้นเตา ดีเซล และเบนซิน“

 

ตัวอย่างการคำนวน Carbon Tax

 

กรมสรรพสามิต จ่อเสนอครม.ใช้กลไกจัดเก็บภาษีคาร์บอน ไม่รอบังคับใช้พ.ร.บ.!

 

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตต้องการบรรลุเป้าหมายในการขับเคลื่อนนโยบายภาษีคาร์บอน คือ สะท้อนให้ผู้ใช้ตระหนักและเห็นว่าต้นทุนในการใช้เชื้อเพลิงที่ปล่อยคาร์บอนออกมา แต่ยังไม่ต้องกังวลว่าภาษีคาร์บอนจะทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น และเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 

โดยการดำเนินการในช่วงแรกจะเป็นการสร้างความตระหนักสำหรับภาคอุตสาหกรรมรวมถึงประชาชน ว่ากิจกรรมที่ทำนั้นมีราคาของคาร์บอน แต่จะไม่ให้กระทบกับต้นทุนในการใช้ชีวิตและประกอบธุรกิจ

”แนวนโยบายดังกล่าวเตรียมที่จะมีการเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็ววันนี้ ก่อนจะมีความชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วจะกำหนดราคาคาร์บอนที่ 200 บาทหรือไม่”

 

 

ข่าวล่าสุด

4 หน่วยงานลุย "สะพานสมุย" พ่วงน้ำ-ไฟ-เน็ต แก้ปัญหาระยะยาว