ไทยติดท็อป 10 ประเทศที่มีตึกระฟ้ามากสุดในโลก สะท้อนการเติบโตของเมือง
สภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (CTBUH) เผย 70 อันดับประเทศที่มีตึกสูงระฟ้ามากที่สุดในโลก ด้านไทยคว้าอันดับ 10 ของตาราง สะท้อนการเติบโตของเมือง ประชาชนย้ายถิ่นฐานจากชนบทมาอยู่ในเมืองมากขึ้น
แม้มนุษยชาติจะมีสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และสูงตระหง่านมานานหลายพันปี เช่น พีระมิด แต่คำว่าตึกระฟ้านั้นมีความหมายแตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อการอยู่อาศัยหรือทำงาน
คำว่า "ตึกระฟ้า" เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีความหมายถึงอาคารที่มีความสูงมากกว่า 150 เมตร และนับตั้งแต่นั้นมา การแข่งขันสร้างตึกระฟ้าในมหานครทั่วโลกเริ่มทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นของประชากรภายในเมืองที่หนาแน่น
ตึกระฟ้าจึงไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้า แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่สาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายให้แก่ผู้คน ทำให้ชีวิตในเมืองมีความสะดวกสบายและมีสีสันมากขึ้น
ข้อมูลในเดือนสิงหาคม 2024 จากสภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (Council on Tall Building and Urban Habitat: CTBUH) เผยว่า แม้ตึกระฟ้าจะถือกำเนิดขึ้นในอเมริกา แต่ในปัจจุบัน ประเทศยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่งอย่าง "จีน" กลับครองอันดับ 1 ประเทศที่มีตึกสูงระฟ้ามากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 3,314 ตึก แบ่งเป็นตึกที่สูงมากกว่า 150 เมตร 3,194 ตึก ขณะที่ตึกสูงกว่า 300 เมตรมีจำนวนกว่า 120 ตึก
ด้านสหรัฐฯ ครองอันดับ 2 ประเทศที่มีตึกสูงระฟ้ามากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 899 ตึก แบ่งเป็นตึกที่สูงมากกว่า 150 เมตร 868 ตึก และตึกที่สูงกว่า 300 เมตร 31 ตึก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นที่ตั้งของตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกอย่าง Burj Khalifa ครองอันดับ 3 ด้วยจำนวนตึกระฟ้าทั้งหมด 336 ตึก แบ่งเป็นตึกที่สูงมากกว่า 150 เมตร 301 ตึก และตึกที่สูงกว่า 300 เมตร 35 ตึก
สิ่งที่น่าจับตาคือตั้งแต่อันดับที่ 4-6 และ 9-13 เนื่องจากประเทศจากเอเชียติดอันดับทั้งหมด รวมถึงประเทศไทยที่คว้าอันดับ 10 ในการจัดอันดับดังกล่าว
ในบรรดาตึกระฟ้ามากมายเหล่านั้น ตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ คือ Magnolias Waterfront Residences Tower 1 ที่มีความสูงถึง 315 เมตร (ทำลายสถิติ ตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 ) ตามมาด้วยตึกคิง เพาเวอร์ มหานคร ที่มีความสูง 314 เมตร และ ตึกใบหยก 2 ที่มีความสูง 304 เมตร ซึ่งตึกเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าทางด้านอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ อีกด้วย
การที่ประเทศไทยมีตึกระฟ้าสูงมากมายนั้นมีปัจจัยหลายประการ อาทิ การเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุนจากต่างประเทศ และความต้องการพื้นที่ใช้สอยในเมืองที่หนาแน่น อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างตึกระฟ้าก็ส่งผลกระทบต่อเมืองในหลายด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ ด้านบวกคือสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ขณะที่ด้านลบคืออาจก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม การจราจรติดขัด และความเหลื่อมล้ำทางสังคม
10 อันดับตึกสูงที่สุดในไทย
สภาตึกสูงและที่อยู่อาศัยในเมือง (CTBUH) ได้จัด10 อันดับตึกสูงที่สุดในไทยไว้ดังนี้
1. Magnolias Waterfront Residences Tower 1 : 315 เมตร
2. MahaNakhon : 314 เมตร
3. Baiyoke Tower II : 304 เมตร
4. Four Seasons Private Residences : 299.5 เมตร
5. Dusit Central Park (Dusit Residences) : 299.1 เมตร
6.Soontareeya : 295.2 เมตร
7. One City Centre : 275.8 เมตร
8. Mandarin Oriental Residences Bangkok : 268.7 เมตร
9. The River South Tower : 258 เมตร
10. Canapaya Residences : 253.3 เมตร
กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน การเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองได้นำมาซึ่งการก่อสร้างอาคารสูงเสียดฟ้ามากมาย เพื่อรองรับความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น และสะท้อนถึงความเจริญก้าวหน้าของประเทศ
ในอนาคต การก่อสร้างตึกระฟ้าในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกแบบตึกที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งตึกระฟ้าเหล่านี้จะไม่ใช่แค่อาคารสูงเสียดฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของคนไทยเช่นกัน


