GAC AION เปิดโรงงานผลิต EV ที่ระยอง ส่งออกตลาดพวงมาลัยขวา

โรงงานประกอบ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ในประเทศไทย ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC มีพื้นที่รวม 85,000 ตารางเมตร บริหารงานโดย บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) หรือ GAC AION

โดยการเปิดโรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศ โดย จีเอซี ไอออน กำหนดให้เป็นฐานการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีแผนที่จะเป็นฮับการผลิตและส่งออกทั่วโลกสำหรับตลาดที่ใช้รถพวงมาลัยขวา

สำหรับการประกอบในปัจจุบัน ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 45% 

โรงงานแห่งนี้ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,300 ล้านบาท และมีกำลังการผลิต หรือ capacity 5 หมื่นคัน/ปี แต่ช่วงแรกจะผลิต 20,000 คัน/ปี และในอนาคตมีแผนขยายการผลิตในอนาคตเป็น 70,000 คันต่อปี เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการในตลาดได้มากขึ้น

 

สำหรับขอบเขตการผลิตของโรงงานแห่งนี้ประกอบด้วย

• ประกอบภายในรถ (Interior) 
• ประกอบช่วงล่าง แพลตฟอร์ม แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า (Chassis)
• ประกอบภายนอกรถ (Exterior)
• การเติมของเหลว (Fill) 
• ประกอบภายนอกรถ (Exterior) 
• การทดสอบการทำงาน (Functional Testing) 
• การทดสอบการวิ่ง (Runway Test)
• การทดสอบฉีดน้ำ (Water Test)

ทั้งนี้ GAC AION  เป็นหนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการใช้งานอีวีระยะเร่งด่วน หรือ อีวี 3.0 ของภาครัฐ ซึ่งจะต้องผลิตรถชดเชยการนำเข้า ซึ่งหากเริ่มปีนี้จะต้องผลิตในสัดส่วน 1:1 หากเริ่มผลิตปีหน้าสัดส่วนการผลิตจะเพิ่มเป็น 1.5:1 

โดยรถที่เริ่มต้นการผลิตคือ AION Y PLUS ซึ่งเป็นรุ่นที่ จีเอซี ไอออน นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรก 

พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า "ประเทศไทยให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนยานยนต์สมัยใหม่เพื่อให้ไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์แห่งอนาคตของโลก โดยมีการกำหนดเป้าหมายและแผนงานในการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้ร้อยละ 30 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2030 ภายใต้แผน 30-30 รวมถึงการพัฒนาแรงงานฝีมือ การสร้างความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานและความปลอดภัย ตลอดจนการให้บริการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติและศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (ATTiC) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่รัฐบาลกำหนดให้ “ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก”

เจิง ชิ่งหง ประธานบริษัท GAC กรุ๊ป กล่าวว่า การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ GAC AION ในประเทศไทย เป็นการเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของแบรนด์ทั้งในไทยและสากล ด้วยการเป็นฐานการผลิตรถยนต์แห่งแรกในต่างประเทศของ GAC AION 

ซึ่งปัจจุบัน GAC AION มีโรงงานผลิต 2 แห่งในประเทศจีน มีกำลังการผลิต 500,000 คัน/ปี และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีกว่า 120% และมียอดการผลิตและจำหน่ายอยู่ใน 3 อันดับแรกของอุตสาหกรรม 

“เมื่อเปิดโรงงานในประเทศไทยขึ้นอีกแห่ง จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับบริษัทในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และยังมีแผนสร้างฐานการผลิตและการจำหน่ายใน 7 พื้นที่ทั่วโลกอีกด้วย”

เจิงกล่าวว่า ไม่เพียงแค่การประกอบรถเท่านั้น แต่บริษัทจะนำเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดเข้ามา 

GAC AION ระบุว่าการเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทยยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาด้านการขาย การจัดจำหน่ายและการส่งเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ 

โดย AION ปรับปรุงแผนพัฒนาทั้งหมด 6 แนวทาง ซึ่งรวมถึง การเพิ่มความสามารถในการผลิต การขยายสายผลิตภัณฑ์ และการกำหนดแนวทางของตลาดในเรื่องฐานการผลิตและจำหน่ายทั่วประเทศ

โอเชี่ยน หม่า (หม่า ไห่หยาง) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่าโรงงานระยอง มีจุดเด่น 4 ด้านคือ ความอัจฉริยะทางเทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพสูง ประสิทธิภาพสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

โดยบริษัทประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อข้อมูล 100% ในการผลิตแบบครบวงจร มีการใช้หุ่นยนต์ร่วมกับเทคโนโลยี AI เพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตจะไม่มีข้อบกพร่อง และสามารถสลับแบบเรียลไทม์

สำหรับโรงงานในประเทศไทยจะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ควบคุมคุณภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยี AI ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานสะอาด จาก GAC AION ประเทศจีน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานใหม่ Lighthouse Factory แห่งแรกและแห่งเดียวในโลก 

ซึ่งเป็นรางวัลที่จัดขึ้นโดย World Economic Forum ที่ได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำอย่าง McKinsey & Company ในการคัดเลือกโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าเกณฑ์เทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตแบบคาร์บอนต่ำ 

เจิง พูดถึงภาพรวมของ GAC กรุ๊ป ว่าเป็นบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 เป็นเวลา 11 ปี ติดต่อกัน และในปี 2566 ยังคงอยู่ในอันดับที่ 165 และมียอดขายรวม 2.5 ล้านคัน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในด้านการขยายตลาดในเกือบทุกภูมิภาคของโลก 

ปัจจุบัน GAC ทำตลาดในกว่า 30 ประเทศ ใน 5 ทวีป  

โดยปี 2560 บริษัทลงทุน 45,000 ล้านหยวน (2.25 แสนล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงาน Guangzhou Automobile Group (GAC) และลงทุนอีก 45,000 ล้านหยวน (2.25 แสนล้านบาท) สร้างโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ (GAC Zhilian New Energy Automobile Industrial Park) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า

ขณะที่  AION เป็นบริษัทแนวหน้าของ GAC กรุ๊ป ในการพัฒนาของรถยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาดโลก โดยเป็นแบรนด์ที่มียอดขายครบ 1 ล้านคัน ด้วยระยะเวลาที่ เร็วที่สุดในโลกคือ  4 ปี 8 เดือน 

โดย GAC AION อยู่ใน 3 อันดับแรกของยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลก 

ทั้งนี้ในพิธีเปิดโรงงานครั้งนี้ GAC AION ยังเผยโฉม อีวี รุ่นใหม่ AION V เจเนอเรชันที่ 2 อย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกอีกด้วย