posttoday

SCB ชี้ ตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังเปิดกว้าง ก่อนเข้า Net Zero ปี 2565

29 มีนาคม 2567

SCB EIC ประเมินสถานการณ์ตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มโตแบบก้าวกระโดด เช่นเดียวกับการใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนยังโตได้อีกมาก หากภาครัฐดำเนินนโยบาย TPA และ UGT ในเชิงพาณิชย์

KEY

POINTS

  • SCB EIC ประเมินสถานการณ์ตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มโตแบบก้าวกระโดด 
  • Third Party Access (TPA) คือหนึ่งในปัจจัยหนุนที่เพิ่มโอกาสการเติบโตของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
  • ไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff) หรือ UGT. คือไฟฟ้าที่ผลิตมาจากแหล่งที่ไม่ปล่อยคาร์บอน เพราะไม่มีการเผาไหม้ อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม
     

นพมาศ ฮวบเจริญ นักวิเคราะห์อาวุโส จาก SCB EIC เผยในงาน SCBX REIMAGINING CLIMATE Series ในช่วง EP1: Shaping the Pathway Towards Net Zero Transition  ที่ SCBX NEXT TECH  ชั้น 4 สยามพารากอน ว่าตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มโตแบบก้าวกระโดด

โดยปัจจุบันภาครัฐไทยกำหนดเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero สอดรับไปกับเป้าหมายของโลก เป้าหมายคือ ไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และจะเข้าสู่ Net Zero ภายในปี 2065

SCB ชี้ ตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังเปิดกว้าง ก่อนเข้า Net Zero ปี 2565

ไทม์ไลน์ตัวอย่างเป้าหมายของไทยก่อนเข้าสู่ Net Zero 2065

ปี 2021    เริ่มต้น
2030    ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 40%
2035    ประมาณการใช้รถ EV 69%
2037    กำจัดคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 120 เมตริกตัน
2050    เป็นกลางทางคาร์บอน
2065    เข้าสู่ Net Zero 

นอกจากนี้ยังมีนโยบาย 30@30 คือตั้งแต่จุดเริ่มต้น ไทยต้องใช้และผลิต EV อย่างน้อย 30% ขึ้นไป และต้องเพิ่มสัดส่วนการใช้ EV เรื่อยๆเป็นขั้นบันได จาก 1 ล้าน ไป 3 ล้านคัน และ ปี 2040 ไทยต้องมี EV ขาย 100 %

ส่วนการไปสู่ Net Zero  ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (SCB EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์เพิ่มเติมว่าเราต้องสนับสนุนให้ใช้พลังงานบริสุทธิ์อย่างพลังไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งตลาดการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังโตได้อีก และจะโตแบบก้าวกระโดด

SCB ชี้ ตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังเปิดกว้าง ก่อนเข้า Net Zero ปี 2565

ข้อมูลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและหลายภาคส่วนจากเอกชนเผยว่า ตั้งแต่ปี 2018 ถึง ปัจจุบันปริมาณการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของเอกชนที่ขายตรงให้กับธุรกิจโตขึ้น +97%

ปี 2018     ผลิตที่ 22 kWh
2019    ผลิตที่ 50 kWh
2020    ผลิตที่ 101 kWh
2021    ผลิตที่ 226 kWh
2022    ผลิตที่ 375 kWh
2023    ผลิตที่ 644 kWh
 

 

SCB ชี้ ตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังเปิดกว้าง ก่อนเข้า Net Zero ปี 2565

นอกจากภาครัฐที่จะมีส่วนในเรื่องนี้แล้ว ภาคการเงินคือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero ผ่านตลาดการเงินสีเขียว รวมถึงเป้าหมายการเพิ่มทรัพย์สินที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้สถาบันการเงินชั้นนำมีเป้าหมายเพิ่มทรัพย์สินที่ยั่งยืน หลายสถาบันการเงินชั้นนำลงทุนไปกับพลังงานสะอาด อย่าง Commerzbank มาเป็นอันดับ 1 ที่ 80 % อันดับ 2 เป็น Nordea 70% อันดับ 3 เป็น JP Morgan 63 % อันดับ 4 เป็นของ Deutche Bank 62 % อันดับ 5 เป็นของ BBVA 60 %

อีกหนึ่งช่องทางธุรกิจพลังงานสะอาดคือ การใช้ กรีน ไฮโดรเจน ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งภาครัฐฯคาดการณ์ว่าจะชัดเจนในปี 2030 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาช่วยให้ราคากรีน ไฮโดรเจนมันชัดเจนขึ้นก็จะทำให้การนำมาใช้ในไทยทำได้เร็วขึ้น

SCB ชี้ ตลาดผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังเปิดกว้าง ก่อนเข้า Net Zero ปี 2565

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ SCB วิเคราะห์ต่อว่า ตลาดของกรีนไฮโดรเจนในไทยยังมีอุปสรรคที่ทำให้เติบโตได้ช้า เช่น

  • ราคากรีนไฮโดรเจนยังค่อนข้างสูง
  • ปริมาณความต้องการกรีนไฮโดรเจนยังไม่แน่นอน
  • โครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับการจัดส่งและจำหน่าย กรีนไฮโดรเจน