สถานการณ์เกาะมันในไม่สู้ดี! เหตุเอลนีโญผนึกโลกร้อน ทำทะเลเดือด

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล ได้ออกมาเผยแพร่ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัวโดยมีเนื้อหาดังนี้

เกาะมันใน เกาะที่เต็มไปด้วยพลังงานสีเขียวแห่งความยั่งยืน แต่ระบบนิเวศรอบด้านอยู่ในสภาพย่ำแย่ ถือเป็นตัวแทนบอกสถานการณ์โลกร้อนที่เรากำลังเผชิญ

เกาะมันในอยู่ในความดูแลของกรมทะเล 100% จึงไม่ต้องห่วงว่าจะมีผลกระทบจากมนุษย์โดยตรง แนวปะการังเป็นแหล่งปะการังน้ำตื้นชั้นยอด นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลเรียนจบจากที่นี่ไปไม่รู้กี่สิบรุ่น

ป่าบนเกาะยังเป็นเขตดูนกระดับต้นๆ ของประเทศ นกแต้วแล้วนางฟ้า นกแซวสวรรค์ ฯลฯ นักดูนกรู้จักเกาะมันในเป็นอย่างดี

นกมีเยอะถึงขั้นสมาคมอนุรักษ์นกฯ เซ็น MOU กับกรมทะเล ผลักดันให้ที่นี่เป็นแหล่งอนุรักษ์นกอพยพระดับประเทศ กรมทะเลผลักดันให้เป็นเกาะพลังงานสีเขียว ติดโซลาร์ทั่วเกาะแม้แต่บนสะพาน ไฟฟ้านำไปใช้ในสถานีอนุบาลเต่าทะเล เมื่อดูทุกอย่าง ที่นี่เป็นเกาะเพอร์เฟ็ค มนุษย์กับธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้ 

ทว่า… โลกร้อนทะเลเดือดเกิดขึ้นแล้ว ปะการังในเขตน้ำตื้นโดนมาตั้งแต่ปี 64 ฟอกขาวซ้ำซากทุกปี สถานภาพปัจจุบัน ตายๆๆ เหลือเพียงในน้ำลึกที่ยังพออยู่รอด

เอลนีโญ่+โลกร้อน ทำให้ป่าของนกแห้งผาก แห้งแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วนกจะอยู่ได้ไหม ? เรื่องนี้ผมไม่ทราบ จึงนำภาพไฟฟ้าสีเขียวท่ามกลางระบบนิเวศที่ทรุดโทรมมาฝากเพราะนี่แหละคือตัวแทนของเมืองไทยในตอนนี้ เรากำลังพยายามลดก๊าซเรือนกระจก เป้าหมายคืออีก 40 ปีเป็น net zero นั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่ธรรมชาติรอบตัวเราแย่แล้ว แย่มากเลยในวันนี้ ไม่ต้องรออีก 40 ปีข้างหน้า

เราพยายามใช้เศรษฐกิจสีเขียว เพราะเรายังต้องพัฒนา แต่เราคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมนะ เราจะใช้การพัฒนาอย่างยั่งยืน เราเบนหัวเรือมาถูกทางแล้ว เห็นเกาะที่จะไปหลบลมในอีก 40 ปี แต่เรือเราวิ่งช้าเกินไป 

พายุลูกใหญ่มาถึงแล้ว คลื่นลูกโตๆ กำลังถาโถมเข้ามารอบเรือ ผู้คนที่อยู่เรือชั้นล่างกำลังเดือดร้อน แต่คนชั้นดาดฟ้ายังคงมองแต่เกาะที่อยู่ห่างไป 40 ปี และนี่เป็นแค่ชายขอบของพายุ ของจริงกำลังตามมาอย่างรวดเร็ว

แล้วจะให้ทำยังไง ? เชื่อว่ามีคำถามแบบนี้

คำตอบซื่อๆ ง่ายๆ คือลงไปช่วยคนชั้นล่างกับเร่งเครื่องเรือให้เร็วที่สุด ภัยพิบัติมาถึงเราแล้ว มหาวิบัติกำลังตามมา…