พระราชประวัติ พระพันปีหลวง “สิริกิติ์” ศรีแห่งแผ่นดิน
จากหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ สู่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อราษฎรและสืบสานพระราชปณิธานแห่งรัชกาลที่ 9
KEY
POINTS
- สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 เป็นพระธิดาในพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ และหม่อมหลวงบัว กิติยากร
- ทรงเข้าพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในปี พ.ศ. 2493 และต่อมาได้รับการสถาปนาเป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”
- ทรงอุทิศพระองค์เพื่อราษฎรผ่านพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยเฉพาะการก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และพระราชดำริ “ปลูกป่าในใจคน” จนได้รับการถวายพระสมัญญาว่า “แม่แห่งชาติ”
พระราชประวัติแห่งความสง่างาม
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นพระธิดาองค์ใหญ่ในพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร
ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ณ บ้านเจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ กรุงเทพมหานคร ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ
ทรงเติบโตท่ามกลางความผันผวนของยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการปลูกฝังเรื่องวินัย ความกล้า และความเสียสละจากพระบิดาผู้เป็นทหาร ทำให้ทรงมีจิตสำนึกแห่งการรับใช้แผ่นดินตั้งแต่วัยเยาว์
การศึกษากับสายใยแห่งศิลปะ
ทรงเริ่มศึกษาชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินี ก่อนย้ายไปโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ที่นั่นเองที่ทรงเริ่มเรียนเปียโนและหลงใหลในดนตรีคลาสสิก
หลังสงครามสิ้นสุด หม่อมเจ้านักขัตรมงคล พระบิดา ได้รับแต่งตั้งเป็นอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ทำให้ทรงมีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตกอย่างลึกซึ้ง และเติบโตท่ามกลางแวดวงศิลปะระดับนานาชาติ
จากราชสำนักโลซานน์ สู่ราชินีแห่งสยาม
ปี พ.ศ. 2491 ณ กรุงปารีส หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ขณะทรงศึกษาที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ความใกล้ชิดและความเข้าใจลึกซึ้งระหว่างทั้งสองพระองค์ ก่อกำเนิดความรักที่ยิ่งใหญ่แห่งยุค
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ทั้งสองพระองค์ทรงหมั้น ต่อมาในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม และในวันต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ
คู่พระบารมีแห่งแผ่นดินไทย
ในช่วงเริ่มรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์เสด็จพระราชดำเนินเคียงข้างทุกภารกิจ พระราชกรณียกิจของพระองค์มิได้จำกัดเพียงในราชพิธี แต่ขยายสู่การเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ห่างไกล พระองค์ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระหว่างที่รัชกาลที่ 9 ทรงผนวชในปี พ.ศ. 2499
นับแต่นั้น พระองค์ทรงได้รับสถาปนาเป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” — สมเด็จพระบรมราชินีนาถพระองค์ที่สองของไทย
พระราชกรณียกิจเพื่อปวงชน
สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงอุทิศพระวรกายเพื่อราษฎร ทรงส่งเสริมอาชีพหญิงชนบทผ่าน “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ” ให้ชาวบ้านมีรายได้และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
พระราชดำริ “ปลูกป่าในใจคน” กลายเป็นแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมที่ลึกซึ้ง ทรงเน้นการปลูกฝังจิตสำนึกอนุรักษ์ธรรมชาติควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ในยามประเทศประสบภัย พระองค์มักเสด็จเยี่ยมเยียนผู้ประสบความเดือดร้อนด้วยพระเมตตา ทรงเป็นแรงบันดาลใจแห่งการเสียสละของสตรีไทย
พระราชจริยวัตรแห่งความเป็นแม่ของแผ่นดิน
ด้วยพระเมตตาและการอุทิศพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ได้รับการถวายพระสมัญญาว่า “แม่แห่งชาติ”
พระราชจริยวัตรอันงดงามและความเรียบง่ายของพระองค์ สะท้อนถึงแบบอย่างของสตรีไทยทั้งในด้านความเข้มแข็งและความละเมียดละไมทางวัฒนธรรม
พระองค์ทรงเป็นทั้ง “สัญลักษณ์แห่งความเป็นหญิงไทย” และ “หัวใจแห่งความรักในผืนแผ่นดิน”
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
หลังรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต พระองค์ได้รับสถาปนาพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เพื่อเชิดชูบทบาทแม่ของชาติ และผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ
ทุกวันที่ 12 สิงหาคม จึงเป็นวันสำคัญสองสถานะ คือ “วันเฉลิมพระชนมพรรษา” และ “วันแม่แห่งชาติ” อันเป็นวันแห่งความกตัญญูและความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
เครดิตภาพประกอบเนื้อหา : เพจเฟซบุ๊ก โบราณนานมา (คลิ๊ก)