



สมรส 'เท่าเทียม' พระราชทานครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย
ในหลวง พระราชินี โปรดเกล้าฯ ประกอบพิธีสมรสพระราชทานให้แก่ข้าราชบริพารในพระองค์ ซึ่งเป็น LGBTQIAN+ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงประกอบพิธี มงคลสมรสพระราชทาน ให้ นายกำพล วงษ์นารี กับ นายณัฐภูมิศ์ แถนสีแสง ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต โดยนายณัฐภูมิศ์ แถนสีแสง คู่สมรส ได้โพสต์ภาพสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“ข้าพระพุทธเจ้าและครอบครัว สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ซึ่งเป็นเกียรติอันสูงสุดแก่ครอบครัว และวงศ์ตระกูลของข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงพระราชทานช่อดอกไม้และของขวัญ เนื่องในวันจดทะเบียนสมรส ระหว่างนายกำพล วงษ์นารี และ นายณัฐภูมิ แถนสีแสงมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยนายกำพล วงษ์นารี รับราชการเป็นข้าราชการในพระองค์ สังกัดกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904
ย้อนประวัติศาสตร์ 'พิธีสมรสพระราชทาน'
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2461 เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อครั้งยังดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนศุโขทัยธรรมราชา และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี หรือหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น ณ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระราชวังบางปะอิน ถือเป็น “พระราชพิธีอภิเษกสมรสครั้งแรกในสยาม”
ในครั้งนั้นได้มีการผสานสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน กล่าวคือ ถามความสมัครพระทัยของคู่อภิเษกสมรส ก่อนจะมีการพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ทรงเจิม แล้วพระราชทานของขวัญ พร้อมด้วยเงินส่วนพระองค์ แล้วคู่อภิเษกสมรสทรงลงพระนามในสมุดทะเบียนเฉพาะพระพักตร์ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธยเป็นราชสักขี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นสักขีด้วย เสร็จแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารกลางวัน และมีการดื่มถวายพระพรแด่คู่อภิเษกสมรส จนได้เวลาอันสมควรคู่อภิเษกสมรสจึงเข้าไปกราบถวายบังคมลากลับวัง
ทั้งนี้ ยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพิธีมงคลอภิเษกสมรส พิธีเสกสมรส และพิธีสมรส พระราชทานแก่พระราชวงศ์ และสามัญชนอีกหลายคู่ มีลำดับพิธีคล้ายคลึงกันทุกราย ต่างแต่การใช้ราชาศัพท์อนุโลมตามฐานะของบุคคล
ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนตามพระราชนิยม โดยยกเลิกการตั้งกระทู้ถาม ต่อมา เมื่อมีบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าการสมรสตามกฎหมายจะสมบูรณ์ได้ต่อเมื่อมีการจดทะเบียนสมรสแล้วเท่านั้น พิธีเสกสมรส และสมรสพระราชทาน ในระยะต่อมา จึงได้เพิ่มเติมขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส ภายหลังจากการลงนามในสมุดทะเบียนสมรสพระราชทานของสำนักพระราชวัง.
ที่มาภาพ
Nutthabhum Taenseesang



