ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กับการก้าวสู่ปีที่ 37 อย่างแข็งแกร่ง
แม่ทัพใหญ่ “ไชยยันต์ ชาครกุล” ส่งไม้ต่อมาสู่ “ชูรัชฏ์ ชาครกุล” ทำให้ได้เห็นการสานต่อกลยุทธ์แบบไร้รอยต่อ เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่องค์กรต่อเนื่องในทุกๆ ปี แม้ต้องเผชิญความท้าทายมากแค่ใดก็ตาม พร้อมตั้งเป้าหมายในการนำพาองค์กรสู่ National Property Company”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำพาองค์กรฝ่ามรสุมทางธุรกิจมาได้ยาวนานถึง 37 ปี แต่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ก็สามารถโชว์ศักยภาพให้เห็นถึงความแข็งแกร่งจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จาก ไชยยันต์ ชาครกุล มาสู่ ชูรัชฏ์ ชาครกุล ทำให้ได้เห็นการสานต่อกลยุทธ์แบบไร้รอยต่อ เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่องค์กรต่อเนื่องในทุกๆ ปี
แม้ต้องเผชิญความท้าทายมากแค่ใดก็ตาม “ชูรัชฏ์ ชาครกุล” ผู้บริหาร generation 2 ของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้าน Economics จาก University of Illinois และ MBA จาก American University ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยเริ่มชีวิตการทำงานที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งแต่ปี 2552 นับเป็นเวลากว่า 14 ปีที่ได้นำความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ เข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งให้แก่องค์กรเพื่อส่งมอบโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ 'บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี' ด้วยปณิธานในการทำงานที่ว่า
“สำหรับผมไม่มีคำว่า The Best มีแต่คำว่า Better” ซึ่งเรามีนโยบายการเป็นองค์กรที่เปิดกว้าง ให้ความสำคัญต่อพนักงาน เพิ่มศักยภาพในการทำงาน ให้ความสำคัญอย่างมากต่อนโยบายด้านการพัฒนาบุคลากร
ปัจจุบัน ชูรัชฏ์ ชาครกุล ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จากความทุ่มเทและความสามารถที่มี ทำให้เกิดการขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างน่าจับตา แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2564 ที่ทั่วโลกต่างประสบภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง แต่บริษัทฯ ก็ยังมีอัตราการเติบโตสูงถึง 14%
โดยมีเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2566 จะมุ่งเน้นด้านการบริหารเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามหลัก ESG มุ่งสู่การเป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบของไทย โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องตลอดปี ประมาณ 10-12 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 – 8,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายที่ 8,600 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 6,850 ล้านบาท คาดขยายตัว 10% สูงกว่าภาพรวมตลาดที่คาดว่าจะขยายตัวราว 3-5%
ที่ผ่านมาลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างไอเดียในการทำงานอย่างต่อเนื่อง กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรทั้งด้านทักษะการทำงานและด้านทัศนคติในการทำงาน เพื่อส่งเสริมศักยภาพการทำงานและวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง มีคุณค่าต่อพนักงาน องค์กร และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางธุรกิจ ให้ก้าวสู่เป้าหมายความสำเร็จที่ตั้งไว้ร่วมกัน
"เราเชื่อว่าวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะช่วยรักษาบุคลากรคุณภาพให้อยู่กับบริษัทฯ ได้อย่างยาวนาน ตลอดจนสามารถช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่สนใจมาร่วมงาน ช่วยให้เกิดการผสมผสานระหว่างประสบการณ์รวมถึงมุมมองใหม่ๆ ที่จะช่วยผลักดันองค์กรให้สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ"
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ สู่มือผู้บริโภค “ชูรัชฏ์” กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นนำเสนอบ้านคุณภาพเพื่อเจาะกลุ่ม Real Demand สืบเนื่องจากความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ซึ่งยังมีปริมาณความต้องการที่ชัดเจน กว่า 30 ปีที่บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ป้อนสู่ตลาด
บริษัทฯ มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่ากำลังสร้างบ้านสำหรับใคร สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ คิดอยากจะทำ แต่สิ่งต่างๆที่หลอมรวมออกมาเป็นบ้านทุกหลัง ถูกสร้างบนพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ และนำมาต่อยอดให้ความต้องการเหล่านั้นครบครันยิ่งขึ้น ด้วยการมองเทรนด์ในอนาคตเพื่อให้การอยู่อาศัยในทุกโครงการที่พัฒนาตอบโจทย์ได้จากปัจจุบันสู่อนาคต
“เราได้พัฒนาแนวคิดในการออกแบบโครงการเพื่อรองรับเทรนด์ของโลกที่มุ่งเน้นความยั่งยืน นำเทรนด์การอยู่อาศัยของบ้านในฝันมาปรับให้เป็นบ้านจริง ที่หลอมรวมความต้องการทั้งด้านสุขภาพ รักษ์โลก ให้มากกว่าเรื่องพื้นที่สีเขียว และชูความเป็นบ้านแบบมัลติฟังก์ชัน ให้มั่นใจว่าสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะได้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่เป็นมากกว่าคำว่า “บ้าน” และมีเป้าหมายในการนำพาองค์กรสู่ National Property Company”
ขณะเดียวกันยังได้กำหนดเป้าหมายที่จะสร้างบ้านภายใต้แนวคิด ‘Sustainable Architecture’ หรือการสร้างสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน เน้นการออกแบบเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงความสะดวกสบายของการอยู่อาศัยควบคู่ไปกับความยั่งยืนของธรรมชาติ เห็นได้จากการพัฒนางานด้านการออกแบบที่ให้ความสำคัญต่อพื้นที่สีเขียวส่วนกลางที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของทุกโครงการให้น่าอยู่
รวมถึงนำความร่มรื่นของต้นไม้เข้ามาช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดการเกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ทั้งยังเพิ่มปริมาณอ๊อกซิเจนในอากาศและช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดี คัดสรรวัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยสร้างความสมดุลในเรื่องการประหยัดพลังงานของการอยู่อาศัยให้ยกระดับเพิ่มมากขึ้น ออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ ทิศทางของแสงแดด ลม และเสียง เพื่อให้บ้านอยู่สบายยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังช่วยตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนมากขึ้นด้วย
ในส่วนของทีม Product Development หรือ (PD) ของเราเองไม่เคยหยุดที่จะคิดค้นนวัตกรรมการพัฒนาแบบบ้าน เริ่มตั้งแต่การพิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรวมของโครงการ ความสวยงามในเรื่องของดีไซน์บ้านที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ความประทับใจใหม่ๆ ในการอยู่อาศัย และคัดสรรวัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ลูกบ้านสามารถใช้ได้จริงในระยะยาว ที่สำคัญในปีนี้เทรนด์การใช้รถพลังงานไฟฟ้ากำลังเป็นที่สนใจอย่างมากของคนไทย
“ชูรัชฏ์” กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อตอนรับเทรนด์การใช้พลังงานไฟฟ้า ว่า เราได้เตรียมพร้อมเพิ่มการออกแบบติดตั้งระบบชาร์จไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าไว้ด้วยเช่นกัน และจะพยายามนำไลฟ์สไตล์เทรนด์ใหม่ๆ เหล่านี้ เข้ามาพัฒนาแนวทางการออกแบบให้พร้อมรองรับกับการอยู่อาศัยในอนาคตอย่างลงตัวที่สุด
และนี่ก็คือภารกิจที่ท้าทายอยู่เสมอ เพื่อให้โครงการบ้านของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ อยู่ในใจของลูกค้าทุกช่วงเวลา นอกจากนี้เรายังได้มีการเสริมทัพ Data Analytics เจาะลึกข้อมูลผ่านโลกโซเชียล เพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจทุกมิติ
“เพราะการดำเนินงานโดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเดิมที่เน้นกลุ่ม Mass Target อาจจะไม่ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเนื่องจากภาวะการแข่งขันทางธุรกิจมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ธุรกิจที่สามารถคาดการณ์อนาคตตลาดได้อย่างเฉียบคมเท่านั้น ที่จะมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต จึงเป็นที่มาของการให้ความสำคัญในการพัฒนางานด้าน Data Analytics ของลลิล พร็อพเพอร์ตี้”
ปัจจุบัน ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้ปรับกลยุทธ์โดยมุ่งทำการสื่อสารที่ตรงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก โดยได้พัฒนาทีม Data Analytics ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อศึกษาและวางกลยุทธ์ในส่วนนี้อย่างจริงจัง นอกจากจะทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ยังสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้พัฒนาแนวคิดในการสร้างสรรค์บ้านที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างลงตัว เป็นที่มาว่าทำไมทุกครั้งที่บริษัทฯ นำเสนอแบบบ้านดีไซน์ใหม่ จึงมักจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าอยู่เสมอ
ตั้งแต่รูปแบบการดีไซน์ออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์, ฟังก์ชันที่สามารถยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม, พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวโดยคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน หรือแม้กระทั่งทำเลที่มีศักยภาพในการเดินทางที่สามารถเข้า-ออก เมืองได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากข้อมูลที่นำมาศึกษาวิเคราะห์ ทำให้เข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจนผ่าน Customer Journey ที่บางครั้งแม้แต่ลูกค้าเอง ก็อาจไม่ทราบชัดเจนถึงความต้องการที่แท้จริงของตน
ดังนั้นข้อมูลที่เกิดขึ้นจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเสริมให้สามารถเสิร์ฟสินค้าที่ตรงใจผู้บริโภคได้ในเวลาที่รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางการตลาดแบบในอดีตที่ผ่านมา เมื่อมีข้อมูลที่แม่นยำ เราก็สามารถนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาแผนงานอย่างตรงความต้องการยิ่งขึ้น ตอบโจทย์อย่างมากกับตลาดผู้บริโภค ณ ปัจจุบันที่มีการแบ่งเซกเมนต์ที่ละเอียดยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทสามารถเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารการตลาดที่เหมาะสมกับแต่ละเซกเมนต์
โดยสิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกโปรดักส์ที่บริษัทนำเสนอออกสู่ตลาด สะท้อนให้ผู้บริโภคเห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนาและการสร้างความผูกพันกับแบรนด์ในระยะยาว เพื่อให้บ้านของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ทุกหลังคือบ้านที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
และนี้คือทายาทคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดที่ไม่หยุดยั้งที่จะนำพาองค์กรไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต


