‘ไซมิส แอสเสท’ ปักหมุดทำเลพระราม9 ผุดมิกซ์ยูสหมื่นล. ปั้นแลนด์มาร์คแห่งใหม่
‘ไซมิส แอสเสท’ จับมือแบรนด์ระดับโลก กลุ่มบันยันทรี-คราวน์ พลาซ่า ผุดมิกซ์ยูส มูลกว่าหมื่นล้านบาท ปั้นแบรนด์มาร์คแห่งใหม่บนทำเลพระราม9 รองรับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ซื้ออยู่อาศัย-ลงทุน
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการในคอนเซ็ปต์ “มิกซ์ยูส” (Mixed-Use) เป็นหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่สอดรับกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่มากที่สุด ด้วยรูปแบบโครงการที่แวดล้อมที่ครบทุกมิติของการใช้ชีวิต ทำงาน ประชุมสัมมนา พักอาศัย ร้านอาหาร Co-Working Space พื้นที่กิจกรรม และคอมมูนิตี้ มอลล์ รวมทุกความสะดวกสบายไว้ครบในจุดเดียว และเมื่อตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพถนนพระราม 9 ด้วยแล้วยิ่งเป็นการสร้างมูลค่าให้กับอสังหาฯ ที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต
โดยโครงการ Landmark @MRTAเป็นมิกซ์ยูส ที่พัฒนาขึ้นบนทำเลศักยภาพ ถนนพระราม 9 พื้นที่โครงการกว่า 13 ไร่ ทำเลใกล้สถานี MRTA เพียง 350 เมตร การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเส้นทางถนนพระราม 9, ถนนรัชดาภิเษก และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นการรวมทุกอย่างไว้ครบภายในโครงการ ได้แก่ อาคารสำนักงานรีเทล และที่พักอาศัย
โดยภายในโครงการนี้ ประกอบด้วย 3 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 18 ชั้น อาคาร B สูง 38 ชั้น (Siamese Tower) อาคาร C สูง 29 ชั้น (Siamese Residence) รวมชั้นดาดฟ้า ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 27 – 205 ตารางเมตร มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท
“ผลตอบแทนจากการซื้ออสังหาฯ ทั้งเพื่ออยู่เอง และการลงทุน นอกจากทำเลที่ตั้ง ตัวอสังหาฯ เช่นบ้าน คอนโด ยังต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทาง ยังรวมถึงโอกาสการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในต่างประเทศโครงการมิกซ์ยูส ที่มีครบทุกอย่างในโครงการ บวกกับทำเลที่โดดเด่น ทำให้เห็นแล้วว่า มูลค่าสินทรัพย์มีการเติบโตในอนาคต ไม่ว่าจะเปลี่ยนมือ หรือ ถือครองไว้อยู่ก็ตาม” นายขจรศิษฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ และมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการแต่ละด้านเข้ามาเป็นทำงานร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ภายในโครงการได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในแบบ Exclusive Lifestyle”
โดยในส่วนของที่พักอาศัยของอาคาร A อยู่ระหว่างการพัฒนาและเจรจากับแบรนด์ระดับโลก อาทิ Crowne Plaza ในเครือของ IHG Hotels & Resorts ที่จะมาเป็นทีมช่วยดูแล บริหารงานและให้บริการ แต่ส่วนของ Siamese Tower ได้ข้อสรุปแล้ว เป็นอาคารที่ได้ต่อยอดและพัฒนาธุรกิจมาเป็นในรูปแบบของ Branded Residence บริหารงาน
ขณะที่ Cassia แบรนด์ภายใต้เครือ Banyan Tree Group ซึ่งผู้ที่พักอาศัยจะได้รับบริการ Concierge, Room Service และ บริการอื่น ๆ รวมถึง บริหารงานดูแลส่วนกลางทั้ง Co-working Space, Retail, Cafe & Restaurant ในอาคาร พื้นที่ด้านล่าง และ ชั้น Rooftop ในมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว สไตล์บายันทรี”
นายขจรศิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน Landmark @MRTA Station มีความคืบหน้าของการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดย วันที่ 28 ธ.ค. 2564 ในส่วนของ ตึก Siamese Tower หรือตึก B รวมถึง ตึก Siamese Residence หรือตึก C มียอดจองรวมกันทั้งหมดไปแล้วเกินกว่า 50% ทั้งนี้ในส่วนของงานก่อสร้างโครงการทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 แต่จะมีบางส่วนที่แล้วเสร็จช่วงกลางปี 2566 นี้
ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทยังได้มองถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างสัดส่วนรายได้จากการขายและเช่า ซึ่งเป็นการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างการเติบโตได้แม้ในภาวะวิกฤต ซึ่งนอกจากพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเป็นหลัก ปรับมาสู่การให้ความสำคัญกับโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ในกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าให้มากขึ้น จากที่มีรายได้ในกลุ่มอสังหาฯ เพื่อขาย เป็นสัดส่วนมากถึง 95% ส่วนอีก 5% มาจากกลุ่มอสังหาฯ เพื่อเช่า
นอกจาก Landmark @MRTA Station บริษัทยังได้เตรียมเปิดโครงการ Landmark By Siamese Asset ย่านรามอินทรา ชื่อ โครงการ Landmark @รามอินทรา แกรนด์สเตชั่น และ ย่านเกษตร ชื่อโครงการ Landmark @เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้องสเตชั่น ซึ่งเป็นการพัฒนาในรูปแบบของ “มิกซ์ยูส” ประกอบด้วย โรงแรม ห้องชุดพักอาศัย พื้นที่เชิงพาณิชย์ และห้องประชุม ซึ่งจะเปิดขายในมีนาคมนี้เช่นเดียวกับ Landmark @MRTA Station พระราม9 และ Cassia Residences Rama9 Bangkok ซึ่งอยู่ในอาคาร B จะมีงานใหญ่ VVIP Day
โดยเปิดขายครั้งแรก ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 พร้อมชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของโครงการได้แล้ว วันนี้


