"ถนอม ดีสร้อย" ลงทุนธุรกิจอสังหาฯ ยังหอมหวานเสมอ

โดย...สุภชาติ เล็บนาค

แม้จะมีผู้เล่นมากมาย และอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ตลาด “อสังหาริมทรัพย์” ในมุมมองของ ถนอม ดีสร้อย กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ-คอน เรียลเอสเตท และบริษัท เอกธุรกิจสินทรัพย์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เงินล้าน ยังมองว่าธุรกิจนี้ ยังน่าสนใจเสมอ

จากเด็กเลี้ยงควาย ไปสู่เซลส์แมน และนักธุรกิจ ผู้เริ่มต้นจากความล้มเหลว วันนี้ ถนอม สามารถเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์ รวมถึงทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภท “สร้างขาย” ได้อย่างเชี่ยวชาญ

ขณะเดียวกัน ประสบการณ์การบุกเบิกธุรกิจ การก่อสร้าง และการทำการตลาด ได้ทำให้เขาเป็นเจ้าของหนังสือ “ชวนคุณรวยด้วยอสังหาฯ โดยใช้เงินคนอื่น” ขึ้นสู่ระดับเบสท์เซลเลอร์ รวมถึงเข้าสู่แวดวงการเป็น “นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ” เปิดหลักสูตรอบรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มานับสิบรุ่น

“จากการเรียนรู้ผ่านลูกศิษย์ ผมพบว่า ในช่วงเวลาที่หลายคนบ่นเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ ยังมีอยู่หลายที่ที่ปลูกบ้าน-สร้างขายไม่ทัน เชื่อไหมว่า เพียง 1 ปี คนที่เข้าร่วมอบรมกับผมคนหนึ่ง เริ่มต้นสร้างบ้านขายหลังหนึ่ง จนเกิดความมั่นใจ ต่อยอดธุรกิจ จนตอนนี้ ปลูกบ้านขายหลายหลัง ได้เงินมามากกว่า 5 ล้านบาท” ถนอมเล่าถึงความโดดเด่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลานี้ให้ฟัง

เขาอธิบายว่า ในยุคนี้ ถือเป็นโอกาสทองของ “เศรษฐีอสังหาริมทรัพย์” เนื่องจากในโลกยุคดิจิทัล คนยุคใหม่ สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ราคาที่ดิน อนาคตของการขยายเมือง ระบบสาธารณูปโภค ไปจนถึงรายละเอียดการก่อสร้าง ที่มีทั้งโค้ช ผู้รู้ รวมถึง “โนว์ฮาว” ความสำเร็จและล้มเหลวมากมาย

“อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ที่รวยเร็ว จากอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีคุณสมบัติอยู่เพียงอย่างเดียวคือต้องโหยหาความรู้ และเสาะแสวงหาช่องทางที่จะลงทุน  ก่อนตั้งเป้าหมายแล้วลงมือทำทันที แต่ที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องมีความรู้มากพอ”

“ในมุมมองของผมองค์ความรู้ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ ต้องมี 4 ด้านคือ1.การตลาด ตั้งแต่การวิเคราะห์สินค้าตัวเอง การจัดการราคา การหาทำเล ช่องทางจัดจำหน่าย ส่งเสริมการขาย 2.การเงิน ว่าด้วยวิธีการระดมทุน การหาทุน ให้ผู้ที่ร่วมลงทุนด้วย เกิดความมั่นใจ 3.การก่อสร้าง ต้องควบคุมงานได้ ต้องรู้ทันผู้รับเหมา 4.การจัดการ ที่สำคัญคือคุณต้องตั้งใจที่จะอยู่ในธุรกิจนี้จริงๆ “ ถนอมระบุ

เขายกตัวอย่าง ทฤษฎีเรื่อง “ราคา”  เพราะราคาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีอยู่ 3 อย่าง1.ราคาประเมินจากกรมที่ดิน กรมธนารักษ์ว่าตารางเมตร - ตารางวาละเท่าไร 2.ราคาตลาด คือราคาที่ซื้อขายอยู่ว่า ชาวบ้านเขาบวกกันประมาณไหน คนที่ใช้ราคานี้คือธนาคาร และ3.ราคาที่ซื้อขายจริง คือราคาที่ผู้ขายต้องการจะตั้ง

“สมมติมีบ้านอยู่หลังหนึ่ง ราคาตลาดเขาซื้อขายกันอยู่ที่ 5 ล้าน แต่คุณอาจจะขายที่3.5 ล้านก็ได้ ราคาทั้งหมดคือบ้านหลังเดียวกัน แต่ราคาแต่ละอย่างต่างกัน ฉะนั้นวิธีของการกู้แบงก์ให้ได้ 100% โดยที่เขาไม่ต้องวางเงินดาวน์ มันสามารถทำได้จริง แล้วถ้าเขาหาได้ถูก เขาสามารถที่จะปล่อยเช่า แล้วทำให้ค่าเช่า cover ต้นทุนทั้งหมดได้เลย นี่คือวิธีการที่คุณจะต้องเรียนรู้” ถนอมเล่าให้ฟัง

สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นในธุรกิจนี้ ถนอมแนะนำให้ลองสังเกตตัวเองดูก่อนว่า มีนิสัยชอบศึกษาที่ดินเปล่า หรือศึกษาบ้าน-คอนโด ที่มีคนลงประกาศขาย แล้วลองวิเคราะห์ว่า สนใจจะ “ต่อยอด” ทำธุรกิจหรือไม่ หากสนใจหาความรู้ ก็เริ่มลงมือทำได้เลย

“ถ้าเราขับรถไปซอยไหน ถ้ามันยังมีที่ว่าง แปลว่ามันยังมีโอกาสเกิดขึ้นทั้งหมด หรือถ้าคุณมีบ้านเก่า ทรุดโทรม 30-40 ปีไปแล้ว มันก็ยังสามารถรีโนเวทเพิ่มมูลค่า จริงๆ แล้ว อสังหาริมทรัพย์ สามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึง 50-60 ช่องทาง บ้านเก่า-บ้านใหม่มันทำได้หมดเลย แล้วที่สำคัญ อสังหาริมทรัพย์ มันไม่มีวันตาย เพราะเมื่อ 4,000-5,000 ปีที่แล้วเขาลงทุนกันอย่างไร  วันนี้ ก็ยังสร้าง-แบ่ง-ขาย เหมือนเดิม”

“ตราบใดที่มนุษย์มันยังเดินอยู่บนดิน นอนอยู่บนเตียง ใช้บ้านอยู่อาศัย มันลอยในอากาศไม่ได้ อสังหาริมทรัพย์ไม่มีวันตาย ฉะนั้น โอกาสเปิดเสมอ”

เขายกตัวอย่างลูกศิษย์คนหนึ่งที่มาจากเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งมีความสุขกับการขับรถวนรอบ “เวียงจันทน์” ทุกอาทิตย์ เพื่อติดตามโครงการถนนตัดใหม่ และหาที่ดินว่างเปล่า จนไปพบกับที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งสวยมาก รวมถึงมีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อ

“เขาเริ่มจากไปถามผู้ใหญ่บ้านว่าพื้นที่ตรงนี้ น้ำท่วมหรือไม่ พอได้คำตอบว่าน้ำท่วม ก็ไปหาเจ้าของที่ ว่าที่นี่น้ำท่วม ขอถูกๆ ได้ไหม พอซื้อมาปุ๊บก็ต่อรอง สุดท้ายก็ไปเจรจากับผู้รับเหมาที่ตัดถนน ขอซื้อดินมาถม สุดท้ายแปลงนี้เป็นแปลงเดียวที่น้ำไม่ท่วม พัฒนาขายต่อ ได้กำไรไป 4 เท่าตัว นี่คือมุมเล็กๆ ที่เราอาจมองไม่เห็น”

จากมุมมองทั้งผู้เล่น และผู้สังเกตการณ์ ถนอมวิเคราะห์ว่านักธุรกิจอสังหามีอยู่ 3 ประเภท คือ1.กลุ่มที่กล้าเสี่ยง ตอนที่  ”เลือดกำลังหลั่งนองแผ่นดิน” เพราะหากรอให้สงครามสงบ ก็หมดโอกาสที่จะขายแล้ว  2.กลุ่มช้าแต่ชัวร์ รอให้ชัดๆ ก่อน แล้วค่อยซื้อ ซึ่งก็ยังมีข้อดี เพราะคนกลุ่มนี้ขยันหาข้อมูล แต่นักธุรกิจส่วนมากจะอยู่กลุ่ม 3. คือตลาดวิ่งไปไหนแล้วไม่รู้ กว่าจะเริ่มทำก็ช้า ตามชาวบ้านไม่ทันแล้ว

“วันนี้ อาจจะมีคนลังเลว่าอสังหาริมทรัพย์ ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่หรือไม่ หรือมีราคาสูงเกินไปไหม บางคนที่ผมรู้จักนี่น่าเศร้าใจนะ เขาเช่าหอพักมา 10 กว่าปีแล้ว ตอบว่าไม่อยากซื้อคอนโด เพราะย้ายงานบ่อย แต่ถามว่าทำงานนี้มากี่ปี เขาตอบว่า 10 กว่าปีแล้ว คือถ้าวันนั้น เขากัดฟันผ่อนคอนโดหน่อย มาวันนี้ มันขึ้นมาอย่างน้อย 3 เท่าตัวแล้ว ถ้าไม่ซื้อก็ยังมีตลาดให้ปล่อยเช่า ต่อยอดต่อไปได้”

“หลายคนอาจจะกลัวการเป็นหนี้ กลัวการลงทุนเริ่มอะไรใหม่ๆ แต่อย่างที่ผมบอก มันมีรูปแบบที่หลากหลายมาก ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมหาศาล เพียงแค่คุณพอมีความรู้ในการมองตลาด มองลูกค้า รวมถึงรู้ข้อมูลพื้นฐานของการก่อสร้าง คุณก็จะเริ่มลงทุนธุรกิจเล็กๆ ของคุณได้ และไม่จำเป็นต้องทำเป็นงานประจำ ขอเพียงแค่มีใจรัก มันจะสามารถพลิกชีวิตได้จริงๆ” ถนอมระบุ

หมายเหตุ – ถนอม ดีสร้อย เตรียมเปิดทอล์คโชว์การกุศล "เศรษฐีอสังหาฯ รุ่นใหม่ รวยด้วยสมอง"  รายได้สมทบทุนสร้างศูนย์การเรียนรู้ คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันเสาร์ที่ 24 ก.ย.นี้ ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้ สุขุมวิท 11 บัตรใบละ 1,500 บาท สนใจเข้าร่วม สมัครได้ที่ id Line : akeinspire  หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.thanomdeesoi.com