"เนาวรัตน์ฯ" กระจายเสี่ยง ลุยรับเหมาควบอสังหาฯ

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 แล้วสำหรับบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ประกาศเดินหน้ารุกตลาดครั้งใหญ่ โดยวางเป้าหมายสำคัญคือ ภายใน 5 ปีนับจากนี้จะทะยานขึ้นเป็นบริษัทรับเหมาชั้นนำที่ติดอันดับท็อปไฟว์ หรือ 1 ใน 5 ของประเทศ พร้อมกับกระจายความเสี่ยงจากเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างเข้ามาสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

พลพัฒ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญในช่วง 5 ปีนับจากปีนี้ บริษัทตั้งเป้าขึ้นเป็นท็อปไฟว์ในธุรกิจมีรายได้ 1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นปีละ 10% จากปัจจุบันอยู่อันดับ 8 ของธุรกิจ โดยปีที่ผ่านมามีรายได้ 7,600 ล้านบาท แบ่งเป็นจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 94% อีก 6% มาจากเข้าร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจแผ่นพรีคาสต์คอนกรีต โดยปีนี้สัดส่วนรายได้ธุรกิจรับเหมาจะอยู่ที่ 90% ธุรกิจอสังหาฯ 10%

“บริษัทตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี ธุรกิจรับเหมาจะมีสัดส่วน 80% พัฒนาอสังหาฯ 20% เนื่องจากกำไรขั้นต้นจากธุรกิจรับเหมานั้นอยู่ที่ 6-8% ขณะที่อสังหาฯ กำไรขั้นต้น 30% ถือว่าสูงมาก ขณะที่แนวทางการพัฒนาอสังหาฯ นั้นจะดูจากศักยภาพในแต่ละทำเลเป็นหลัก เนื่องจากซัพพลายที่ออกมาในเวลานี้มีค่อนข้างสูงเช่นกัน” พลพัฒ กล่าว

ที่ผ่านมาบริษัทมีโครงการที่พัฒนาแล้ว ประกอบด้วยส่วนที่บริษัทลงทุนร่วมกับบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ ได้แก่ โครงการ ดิ อิสสระ ลาดพร้าว คอนโดมิเนียม จํานวน 561 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ขายและโอนแล้ว 98%  โครงการ อิซซี่ คอนโด สุขสวัสดิ์ จํานวน 892 ยูนิต มูลค่า 1,900 ล้านบาท ขายไปกว่า 75% และโอนแล้ว 57%  โครงการที่พัฒนาโดยบริษัท มานะพัฒนาการ บริษัทในเครือของเนาวรัตน์พัฒนาการ ได้แก่ โครงการ บารานี พาร์ค ร่มเกล้า โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จํานวน 86 ยูนิต มูลค่า 900 ล้านบาท ขายแล้วกว่า 20% และโครงการ เอสเพน คอนโด ลาซาล  คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 425 ยูนิต มูลค่า 780 ล้านบาท มียอดแล้วกว่า 60% จะเริ่มโอนไตรมาส 3 ปี 2560

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ บารานี เรสซิเดนซ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบริเวณรังสิตคลอง 3 จํานวน 140 ยูนิต มูลค่า 800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท และเปิดโครงการ บารานี พาร์ค ร่มเกล้า ในไตรมาส 2 นอกจากนี้จะมีการเปิดเฟส 2 ของโครงการ เอสเพน คอนโดมิเนียม ที่ซอยลาซาล จํานวน 398 ยูนิต ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ รวมไปถึงมีแผนจะเปิดโครงการบ้านหรูย่านบางนา ที่ร่วมกับบริษัท ชาญอิสสระฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่าโครงการรวมกันกว่า 3,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 2560 เพิ่มเป็น 10% จาก 5% ในปัจจุบัน โดยจะรุกเข้าไปรับงานในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะงานในประเทศเมียนมา ที่จะมีโครงการลงทุนต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทได้ยื่นประมูลงานในเมียนมามูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าและสร้างถนน

สำหรับมูลค่างานก่อสร้างโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศที่บริษัทติดตามอยู่ในปีนี้ คาดว่าจะมีมูลค่ารวมทั้งหมด 6.3 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทจะเข้าร่วมประมูลงานและคาดหวังจะได้รับงานราว 10% ของมูลค่างานทั้งหมด ซึ่งงานที่มีมูลค่าสูงส่วนใหญ่จะเป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า 3 โครงการ มูลค่าโครงการละ  1 หมื่นล้านบาท และงานก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบิน มูลค่าราว 1.3 หมื่นล้านบาท และงานระบบสาธารณูปโภคมูลค่า 3,000 ล้านบาท

ปัจจุบันมูลค่างานในมือ (แบ็กล็อก) อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 40-60% ขณะที่ยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15%  ซึ่งด้วยประสบการณ์และสายป่านที่ยาว เชื่อว่าจะทำให้เนาวรัตน์ฯ เติบโตได้อย่างมั่นคง