บ้านสไตล์ ‘อิงลิช คันทรี่’ ของ ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์

คอนโดมิเนียมกลางใจเมืองย่านสุขุมวิทอันแสนสะดวกสบายของ ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ตกแต่งทุกมุมอย่างลงตัวช่วยชาร์จพลังในการทำงานได้มาก เพราะนอกจากเธอจะมุ่งมั่นกับการทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ยังมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมทำโครงการเดินตามรอยเท้าคุณพ่อ (ธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์) ทำ “บ้านร่วมทางฝัน” โครงการที่มุ่งตอบแทนสังคมเป็นหลัก โดยมอบผลกำไรจากการสร้างบ้านตามที่ต่างๆ นับ 3 โครงการของเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ได้มอบเงินบริจาคให้โรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี รวมเงินบริจาคนับ 120 ล้านบาทแล้ว และยังคงจะทำต่อเนื่องต่อไป

ในการทำงานตลอด 5 วัน/สัปดาห์ เพราะต้องแบ่งเวลาให้สมดุลเพื่อไปดูแลครอบครัวและลูกสาววัยกำลังน่ารัก 5 ขวบ และ  7 เดือน ตามลำดับ ในห้องใหญ่กว้างขวางสำหรับการวิ่งเล่นของลูกๆ ดร.เกษรา เล่าถึงชีวิตความสะดวกสบายในคอนโดมิเนียมกลางใจเมืองว่า เดิมทีเธอและครอบครัวเคยอยู่ในคอนโดที่มีขนาดเล็กกว่านี้ แต่พอมีลูกจึงต้องขยับขยายมาอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่ใหญ่ขึ้น คือ 270 ตารางเมตร เพื่อไว้รองรับพี่เลี้ยงของลูก เพราะเธอก็ต้องทำหน้าที่เวิร์กกิ้งวูแมนควบคู่กับการเป็นคุณแม่ด้วย

 

“ดิฉันชอบอยู่คอนโดเพราะสะดวกสบาย คนอยู่บ้านเพราะอยากมีสนามหญ้า แต่เราชอบคอนโดเพราะใกล้ทุกจุดทั้งออฟฟิศและห้างสรรพสินค้า ดิฉันสอนหนังสือที่จุฬาฯ ด้วย ส่วนบ้านคุณแม่อยู่หลังสวน สามีอยู่ปิ่นเกล้า อยู่ตรงสุขุมวิทตรงนี้จึงไปมาสะดวก เราก็เลยอยู่คอนโด อีกทั้งตอบโจทย์ลูกยังเล็ก เข้า-ออกทางถนนเดียวปลอดภัย เราอยู่ที่นี่มา 4 ปีกว่าแล้วค่ะ”

แม้เป็นห้องบนคอนโดแต่พื้นที่ใช้สอยก็สะดวกสบาย เพราะแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องเป็นอย่างดี  เมื่อก้าวเข้ามาในห้องจะพบกับห้องรับแขก ห้องกินข้าว ที่เหลือเป็นห้องลูกๆ 2 ห้อง และห้องนอนใหญ่อีก 1 ห้อง ที่ลูกสาวสองคนต้องแยกห้องนอนเป็นส่วนตัว เพราะ ดร.เกษรา นิยมเลี้ยงลูกแบบฝรั่งและเพื่อให้ลูกมีความรู้สึกเป็นส่วนตัวและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่

 

“จากห้องเดิมไม่มีห้องรับแขก แต่เราทำห้องกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องรับแขก สรุปคือเราต้องรื้อห้องทำใหม่หมด และใช้เวลาตกแต่งนานถึง 5 เดือน ซึ่งการตกแต่งห้องอยู่บนแนวคิด คือ เรียบง่าย เอาสีเรียบๆ เอิร์ทโทน คือ ขาว ห้องลูกใช้วอลเปเปอร์สีชมพูหวานๆ ดูโมเดิร์นแบบคอนเท็มโพรารีซึ่งอยู่ได้นาน เพราะเราก็ไม่แฟชั่นจ๋า เลือกแบบอยู่ได้นานๆ ไม่เบื่อ ใช้งานได้จริง เน้นความอยู่สบายดีกว่า” สรุปแนวแต่งห้องโดยรวม คือ มีกลิ่นอายอิงลิช คันทรี่ เพราะ ดร.เกษรา ชอบระเบียงกว้างๆ เอาไว้ชมสวนสวยรอบๆ คอนโดกลางใจเมือง

เราชอบระเบียงใหญ่ด้านห้องรับแขกเอาไว้ปลูกต้นไม้ เราซื้อต้นไม้ไผ่ บ่อน้ำล้นเพื่อมาออกแบบตกแต่งสวนให้ร่มรื่น ซื้อเก้าอี้มาตั้งแบบเอาต์ดอร์นั่งชมวิวเห็นเมืองสุดลูกหูลูกตา ตอนกลางวันก็ได้บรรยากาศหนึ่ง กลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กัน” ห้องที่น่าสนใจอีกห้องที่ตกแต่งไว้อย่างน่ารัก อิงสไตล์อังกฤษนิดๆ คือ ห้องนั่งเล่น ซึ่งก็กลายเป็นมุมโปรดของทุกคนในบ้าน เอาไว้นั่งเล่นกับลูกๆ ดูทีวีและรับแขกไปด้วยในตัว แต่สำหรับมุมทำงาน ดร.เกษรา ยึดมุมที่ห้องกินข้าวเพราะมีขนาดกว้างขวาง”

 

สุดท้ายนี้ ดร.เกษรา นิยมความเป็นบ้านของเธอ คือ บ้านที่อยู่สบาย กลับมาแล้วรู้สึกสบายใจ เรียบง่ายไม่มีพิธีรีตอง เพราะหลังจากทำงานหนักนอกบ้านแล้ว ก็อยากกลับมาดื่มด่ำกับบรรยากาศเรียบง่ายๆ สบายๆ

“โต๊ะทำงานที่บ้านเป็นเพียงมุมเล็กๆ ก็เพียงพอ ยิ่งเรามีลูกเล็กๆ โต๊ะในบ้านต้องอย่าเยอะ เก้าอี้โต๊ะต้องมีมุมปลอดภัยต่อลูกน้อย อย่างห้องนั่งเล่นเราเลือกโซฟาหนังสีขาว วางหมอนลายอังกฤษและลายดอกไม้ ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้บ้านมากขึ้น ฝาผนังประดับภาพประทับใจของครอบครัว ตรงโต๊ะรับแขกมีมุมเล็กๆ ของโต๊ะหมู่บูชาพระ มีพรมปูพื้นสีครีมเข้มมุมนั่งเล่นตรงระเบียงเป็นเก้าอี้หวายสีขาวมองเห็นวิวเมืองด้านนอก ยิ่งตอนกลางคืนจะเห็นอีกบรรยากาศหนึ่งค่ะ”