posttoday

การตรวจสอบอาคารเพลิงไหม้ในกทม.

25 พฤษภาคม 2553

การจำแนกประเภทของอาคารที่ได้รับความเสียหายไว้เป็น 3 ประเภท คือ ประเภทที่ได้รับความเสียหายรุนแรง ความเสียหายระดับปานกลาง และความเสียหายเล็กน้อย

การจำแนกประเภทของอาคารที่ได้รับความเสียหายไว้เป็น 3 ประเภท คือ ประเภทที่ได้รับความเสียหายรุนแรง ความเสียหายระดับปานกลาง และความเสียหายเล็กน้อย

โดย...ธเนษ วีระศิริ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีชนบท อาจารย์พิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

จากเหตุการณ์ที่อาคารหลายหลังในกรุงเทพมหานครถูกวางเพลิง สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดส่งวิศวกรเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดแนวทางในการเข้าตรวจอาคาร ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีจำนวน 36 หลัง ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้

โดยได้กำหนดกรอบการจำแนกประเภทของอาคารที่ได้รับความเสียหายไว้เป็น 3 ประเภท คือ ประเภทที่ได้รับความเสียหายรุนแรง ความเสียหายระดับปานกลาง และความเสียหายเล็กน้อย ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวเป็นการสำรวจเบื้องต้นด้วยการตรวจพินิจจากสภาพที่เห็นเกี่ยวกับรูปทรงขององค์อาคาร ความชำรุดหลุดร่วงของวัสดุประกอบอาคาร

จากผลสำรวจจะกำหนดแนวเขตอันตรายของอาคารแต่ละหลังเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ที่สัญจรผ่านไปมา รวมถึงข้อควรระวังสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาคารที่จำเป็นต้องเข้าออกอาคารแต่ละหลัง

การจำแนกระดับความเสียหายเป็น 3 ระดับนั้น จะพิจารณาโครงสร้างหลักของอาคาร ได้แก่ เสา คาน พื้น รวมถึงโครงหลังคา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคารคงรูปอยู่ได้ การสำรวจด้วยการตรวจพินิจ (Visual Inspection) เป็นการสำรวจเบื้องต้น จำเป็นต้องอาศัยการพิจารณาลักษณะรูปทรงขององค์อาคารที่คงสภาพอยู่ ตำแหน่งจุดต่อต่างๆ ของโครงสร้าง ความชำรุดสึกหรอของโครงสร้างหลัก

นอกจากโครงสร้างหลักแล้ว ยังต้องพิจารณาโครงสร้างรองหรือส่วนประกอบอาคารอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ผนัง ฝ้าเพดาน เป็นต้น ระดับความเสียหายของอาคารจึงให้นิยามไว้ดังนี้
ระดับความเสียหายรุนแรง (Severe Damage) รูปทรงของอาคารบิดเบี้ยวเสียรูป หรือโครงสร้างหลักเสียรูป ได้แก่ เสาโก่งตัว เสาแตกร้าวจนเห็นเหล็กเสริม คานแอ่นตัวมาก คานแตกร้าวเห็นเหล็กเสริม เหล็กเสริมโผล่หรือหลุดออกจากเนื้อคอนกรีต พื้นยุบแอ่นตัวลงอย่างชัดเจน คอนกรีตใต้ท้องพื้นหลายตำแหน่งหลุดร่อนออกจนเห็นเหล็กเสริม เหล็กเสริมใต้ท้องพื้นแยกออกจากเนื้อคอนกรีต คานและพื้นสูญเสียแนวระดับอย่างชัดเจน ความเสียหายเกิดทั่วบริเวณของอาคาร

หมายเหตุ ไม่จำเป็นต้องพบเห็นความชำรุดบกพร่องครบทุกอย่างดังกล่าว เพียงแต่เกิดขึ้นอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นปริมาณมากก็ควรจัดเป็นความเสียหายรุนแรงได้ โดยเฉพาะกับความเสียหายของเสาที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะความชำรุดบกพร่องของเสาเพียงไม่กี่ต้นก็อาจทำให้อาคารสูญเสียเสถียรภาพและล้มพังได้อย่างรวดเร็ว

ระดับปานกลาง (Moderate Damage) รูปทรงอาคารไม่บิดเบี้ยว จำนวนพื้นและคานปริมาณน้อยที่พบว่ามีการแอ่นตัวหรือแตกร้าว คอนกรีตใต้ท้องพื้นหรือคานแตกหลุดร่อนเป็นปริมาณไม่มาก ไม่พบเห็นความบกพร่องที่เสาใดๆ ของอาคาร

ระดับเล็กน้อย (Light Damage) |รูปทรงอาคารไม่บิดเบี้ยว ไม่พบเสาที่ชำรุดเสียหายหักงอ พื้นและคานไม่แอ่นตัว หรือมีเพียงบางตำแหน่งที่พบการแอ่นตัวแตกร้าว แต่สามารถกั้นเป็นพื้นที่เฉพาะจุดเพื่อทำการแก้ไขได้

อาจใช้อักษรย่อเพื่อเรียกง่ายๆ ว่า S (Severe Damage) M (Moderate Damage) หรือ L (Light Damage)

สำหรับอาคารที่จัดอยู่ในประเภทรุนแรงและปานกลางควรกั้นแนวเขตให้ครอบคลุมถึงความปลอดภัยต่อผู้สัญจรผ่านไปมา และสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าของอาคารควรสอบถามจากวิศวกรว่าสามารถเข้าในอาคารได้หรือไม่ และมีแนวทางปฏิบัติเช่นไร

มีข้อสังเกตสำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นต้องเข้าในอาคารดังนี้

- ควรระมัดระวังเมื่อต้องเข้าบริเวณที่พบเห็นผนังของอาคารปูดเข้าหรือโก่งเข้าหาบริเวณนั้น ทั้งนี้เพราะผนังห้องจะโก่งเข้าหาห้องที่มีเพลิงไหม้ หรือมีความร้อนเกิดขึ้นเป็นปริมาณมาก ขณะเพลิงไหม้อากาศในห้องนั้นจะลอยสูงขึ้น ทำให้ความหนาแน่นลดลง อากาศจากภายนอกมีความหนาแน่นมากกว่าจะดันให้ผนังปูดหรือโก่งเข้าห้องที่มีความร้อนมาก จึงเป็นข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นได้ว่าบริเวณที่พบเห็นผนังโก่งเข้ามีความเปราะบาง ต้องเพิ่มความระมัดระวังในบริเวณดังกล่าว

- หากพบว่าพื้นผืนใดคอนกรีตใต้ท้องพื้นหลุดแยกออกจากคอนกรีตแล้ว ไม่ควรขึ้นไปบนพื้นผืนนั้น เพราะถือได้ว่าพื้นผืนนั้นไม่มีเหล็กเสริมแล้ว ควรทำค้ำยันใต้ท้องพื้นให้แข็งแรงก่อน และการเดินบนพื้นควรเลือกเดินหรือยืนบริเวณที่เป็นแนวเสา หากมีหลายคนควรแยกกันยืนเพื่อกระจายน้ำหนัก มิฉะนั้นอาจทำให้พื้นร่วงลงมาเป็นอันตรายได้

- สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่เหล็กเสริมหลุดแยกออกจากคอนกรีต ขอให้ตรวจดูว่ามีรอยแตกที่ผิวด้านบนของพื้นตำแหน่งชิดขอบคานหรือเสาว่ามีหรือไม่ หากพบว่ามีควรระมัดระวังการบรรทุกน้ำหนักในระหว่างขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ที่อาจส่งผลให้แตกร้าวมากยิ่งขึ้น

- สำหรับเสาที่พบรอยแตกแนวดิ่ง ซึ่งมักจะพบกับอาคารที่เพลิงไหม้เป็นเวลานาน ตำแหน่งดังกล่าวจะอยู่ตามมุมช่วงกลางเสา รอยแตกตำแหน่งนั้นเหล็กได้รับความร้อนโดยตรง คอนกรีตภายในอาจกรอบและพร้อมหลุดร่วงเพิ่มเติมขึ้นอีก ควรหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ในช่วงที่มีการขนย้ายสิ่งของออกจากอาคาร ตำแหน่งเสาดังกล่าวควรมีการสำรวจทางวิศวกรรมเชิงลึกเพื่อทำการซ่อมแซมแก้ไข หรือเพื่อเป็นข้อมูลพิจารณาว่าจะรื้อทิ้งหรือไม่อย่างไร

การสำรวจดังกล่าวเป็นการสำรวจเบื้องต้นที่สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร เข้าทำการสำรวจอาคารแต่ละหลัง สำหรับการปรับปรุงแก้ไขหรือแม้แต่การทุบรื้อทิ้งส่วนโครงสร้างหลักอย่างไรนั้น เจ้าของอาคารต้องให้วิศวกรมาทำการสำรวจทางวิศวกรรม เพื่อสรุปความเห็นว่าจะทำการแก้ไขหรือทำการรื้อถอนในแต่ละส่วนของอาคารต่อไป

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน