"ดีดีพร็อพเพอร์ตี้"ชี้อสังหาฯเก็งกำไรยังโต

เว็บไซด์อสังหาฯ ดีดี พร็อพเพอร์ตี้  ระบุกลุ่มซื้อเก็งกำไรอสังหาฯ ไม่หาย แม้ตลาดอสังหาซบเซา ชี้เดือน พ.ค.ยอดเข้าชมเว็บเริ่มกระเตื้อง  

นายณพงศ์ ปานทอง  ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย เว็บไซต์ DDproperty.com เปิดเผยว่าในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ที่ยืดเยื้อยาวนานหลายเดือน แต่กลุ่มนักเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์กลับไม่ได้ชะลอการซื้ออสังหาฯเพื่อลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อคอนโดมิเนียม  ยังมีการซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยได้โอนเป็นกรรมสิทธิ์ก่อน และรอจังหวะในช่วง 2 ปีข้างหน้าแล้วจึงปล่อยขาย

“ปัจจุบันการซื้ออสังหาฯเพื่อลงทุนนั้นยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ลดลงไปแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะซบเซา  แต่รูปแบบของการซื้อเพื่อเก็งกำไรนั้นเปลี่ยนไปจากอดีต ที่อาจจะมีการขายใบจองในระยะสั้น หรือการขายดาวน์ เมื่อผ่อนไปสักระยะ แต่ขณะนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่กลับหันมามองโอกาสในระยะยาว  โดยจะต้องรับมองโครงการหรือรับโอนห้องชุด จากนั้นอาจจะปล่อยเช่า จากนั้นจึงนำมาปล่อยขาย  ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะต้องถือครองห้องชุดไว้ระยะกลางๆ นานเฉลี่ย  2 ปี ก่อนจะประกาศขายเพื่อทำกำไร  เพราะมองว่าวัสดุก่อสร้าง ปรับเพิ่มขึ้น ราคาที่ดินขยับขึ้น  ส่งผลให้ราคาอสังหาฯปรับสูงขึ้นตามไปด้วย”นายณพงศ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามประเมินได้ว่าตลาดอสังหาฯ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว โดยพิจารณาได้จากยอดเข้าชมเว็บไซด์ ดีดี พร็อพเพอร์ตี้ ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยมีผู้เข้าเยี่ยมชมเฉลี่ย  2.8 ล้านคนต่อเดือน  จากในช่วงเดือนม.ค.และก.พ. ที่ผ่านมา ยอดการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทน ลดลง 10%

“ผู้บริโภคเริ่มมองหาโครงการอสังหาฯกันมากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาการเมืองจะวุ่นวาย แต่หากไม่รุนแรงถึงขั้นปิดประเทศก็เชื่อว่าตลาดยังพอไปได้ โดย ปัจจุบันกลุ่มผู้ซื้อนิยมในทำเล อ่อนนุชและบางนา เนื่องจากใกล้กับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย   และยังไม่ไกลจากนิยมอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฝั่งตะวันออก โดยมีคอนโดมิเนียมระดับราคา 1 ล้านต้นๆ ให้เลือกจำนวนมาก  ทำเลรองลงมาเป็นโซนสุขุมวิทตอนกลาง ช่วงทองหล่อกับพระโขนง ที่คนนิยมเลือกที่อยู่อาศัย”นายณพงศ์กล่าว

สำหรับในปีนี้  ดีดี พร็อพเพอร์ตี้  ดอทคอม ตั้งเป้ารายได้ไว้ จำนวน  100 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อน 2 เท่าตัว โดยรายได้หลักของบริษัทมาจาก การขายโฆษณาที่ประกาศลงบนเว็บไซต์  และการขายทรัพย์ประเภทบ้านมือสอง คอนโดมิเนียมมือสอง ในรูปแบบบิ๊กล็อตให้กับบริษัท นายหน้าอสังหาริมทรัพย์  เป็นต้น