วิธีแก้ปัญหาน้ำผุดกลางบ้าน
เพื่อให้โครงสร้างพื้นของบ้านเรายังปลอดภัย วิธีการหนึ่งที่อยากให้ลองทำดูคือการเจาะรูให้น้ำใต้ดินผุดขึ้นมาในตำแหน่งที่ต้องการ
โดย....เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์
แม้ว่าในปีนี้สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่จะไม่เกิดขึ้นรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ผู้ที่เคยเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมก็สรรหาวิธีเพื่อป้องกันน้ำเข้าบ้านกันอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการกั้นกระสอบทราย ก่ออิฐฉาบปูน การใช้แผ่นเหล็ก อะลูมิเนียม หรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์มาปิดกั้นน้ำ และวิธีการอื่นๆ อีกมากมายที่หลายคนได้คิดค้นขึ้น แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยที่ได้ทำการกั้นบ้านเป็นอย่างดีแล้ว เมื่อน้ำมาซ้ำอีกครั้งจริง กลับพบว่าน้ำผุดขึ้นมากลางบ้านดันพื้นกระเบื้องจนแตกหรือโก่งขึ้นมา หรือซึมขึ้นมาจากเสา ขอบบัว ทั้งๆ ที่ระดับน้ำภายนอกยังไม่ข้ามพ้นกระสอบทรายที่กั้นไว้รอบบ้านด้วยซ้ำ
เรามาทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของน้ำ ที่ส่งผลทำให้น้ำผุดขึ้นมากลางบ้านกันก่อน
การที่น้ำผุดขึ้นมานั้นเกิดจากแรงดันน้ำ นึกภาพเวลาที่เราไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ แล้วเราพยายามกดแผ่นโฟมลงให้จมน้ำ จังหวะที่เรากดแผ่นโฟมจะรู้สึกว่าน้ำมีแรงต้านทานกับมือดันให้แผ่นโฟมลอยขึ้น ทำให้ต้องออกแรงเพิ่มขึ้นจึงจะกดแผ่นโฟมให้จมลงได้
เปรียบเทียบพื้นบ้านก็เหมือนกับแผ่นโฟม น้ำที่ล้อมรอบตัวบ้านมีแรงดันน้ำที่สามารถซึมผ่านชั้นดินขึ้นมาได้ และเมื่อระดับน้ำในชั้นดินสูงขึ้นจนถึงระดับพื้นบ้าน น้ำมีแรงดันใต้พื้นบ้านเช่นเดียวกับแผ่นโฟม และอาจส่งผลให้พื้นคอนกรีตเกิดรอยแตกร้าวในพื้นได้ น้ำก็จะซึมออกมาตามรอยแตกร้าวเหล่านั้น ทำให้เกิดน้ำผุดขึ้นกลางบ้านนั่นเอง
ในเมื่อน้ำใต้ดินพยายามจะหาทางดันขึ้นมาแต่หาทางออกไม่ได้ เจอพื้นคอนกรีตก็พยายามดันจนพื้นบวมแตกร้าว กระเบื้องหลุดแตกร้าวเสียหาย เราจึงควรหาทางปลดปล่อยแรงดันนี้ เพื่อให้โครงสร้างพื้นของบ้านเรายังปลอดภัย วิธีการหนึ่งที่อยากให้ลองทำดูก่อนที่น้ำจะมาถึง คือการเจาะรูให้น้ำใต้ดินผุดขึ้นมาในตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นหาทางต่อท่อให้น้ำไหลไปรวมกันแล้วสูบออก โดยจุดเจาะที่พื้นนี้แนะนำให้ใช้ข้อต่อ พีวีซี เกลียวใน ทองเหลือง พร้อมฝาจุกปิด หล่อปิดไว้ที่พื้น หลบไว้ตามมุมห้อง หรือจุดที่มองไม่ค่อยเห็นก็ได้
ที่สำคัญคือ ต้องทำไว้ทุกห้องอย่างน้อยห้องละหนึ่งจุด เวลาจะใช้งาน (เมื่อเห็นว่าระดับน้ำภายนอกบ้านเริ่มสูงเกินระดับพื้นภายในบ้าน) ก็ขันจุกออก นำท่อที่มีเกลียวมาพันด้วยเทปพันเกลียวขันเข้าที่ จากนั้นต่อสายยางและลากสายยางไปรวมกันไว้ในที่รองน้ำ (ถังน้ำ กะละมัง ฯลฯ) ที่ได้เตรียมไว้แล้ว และดูดน้ำออกจากที่รองน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำตามลำดับ เท่านี้ก็น่าจะอยู่สู้น้ำกันได้สักระยะหนึ่งเลยทีเดียว


