กทม.รับฟังความเห็นร่างผังเมือง 25 ส.ค.นี้

กทม. พร้อมปิดประกาศร่าง วันที่ 8 ส.ค. และเปิดเวทีฟังความเห็น 25 ส.ค. ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง

โดย...วราพงษ์ ป่านแก้ว

วันที่ 8 สิงหาคมนี้ สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร จะปิดประกาศร่างผังเมืองรวมกทม. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ที่จะนำมาใช้แทนฉบับปัจจุบัน ให้คนกทม. โดยเฉพาะเจ้าของที่ดินที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้รับรู้ว่าใน ร่างผังเมืองฉบับใหม่นี้ มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง

ประชาชนชาวกทม. ไปหาดูหรือตรวจสอบรายละเอียดของร่างผังเมืองได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต หรือที่สำนักผังเมือง กทม. ตรงสนามไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง หรือในเว็บไซต์ www.bma-cpd.go.th

เมื่อตรวจสอบดูรายละเอียดกันแล้ว จะให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดความเห็นต่อร่างผังเมืองฉบับนี้กันในวันที่ 25 สิงหาคม ที่ศูนย์เยาวชนไทยญี่ปุ่น ตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป และยังมีเวทีย่อยอีก 3 วัน ซึ่งรายละเอียดหาดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักผังเมือง

แต่เท่าที่ได้เห็นร่างผังเมืองตัวนี้มาแล้วจากการที่สำนักผังเมืองกทม.ได้เชิญไปสัมมนาเมื่อปลายอาทิตย์ที่แล้ว ก็เห็นว่า ร่างผังฉบับนี้ ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว เพราะมีการพัฒนา ปรับปรุงจุดอ่อนด้อยจากผังเมืองฉบับปัจจุบันให้ดีขึ้น

โดยได้วางกรอบในการใช้ประโยชน์ที่ดินไว้ 4 แนวทางด้วยกัน ได้แก่ เป็นการสนับสนุนนโยบายหรือโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เป็นการสนับสนุนการพัฒนาที่สอดคล้องกับระบบขนส่งมวลชนทางราง การเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน และการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับศักยภาพในการพัฒนาของพื้นที่

โดยเฉพาะในพื้นที่ที่จะมีการพัฒนาโครงการขนส่งระบบรางทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของคนกทม.ในอนาคต จึงต้องวางผังให้สัมพันธ์กับระบบราง
 เช่น การรวมการพัฒนาบริเวณที่เป็นจุดเชื่อมต่อการระบบราง บริเวณ สถานีหัวหมาก ลาดกระบัง ของแอร์พอร์ต ลิงค์ สายสีเขียว และสีน้ำเงินที่เปิดไปแล้ว และสีแดง สีม่วง ที่จะเป็นตัวชี้นำการพัฒนาในอนาคต เป็นต้น

พื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เช่น บริเวณโดยรอบศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ชุมชนชานเมืองมีนบุรี (ใหม่) และพื้นที่ต่อเนื่องบริเวณ กม. 8 และย่านพาณิชยกรรมมีนบุรี บริเวณระยะ 500 เมตรจากรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ตามแนวถนนรัชดาภิเษก

บริเวณศูนย์ชุมชนชานเมืองต่างๆ เช่น  บริเวณศูนย์ชุมชนหนองจอก ย่านวงเวียนใหญ่ บริเวณพื้นที่ระหว่างถนนกัลปพฤกษ์กับถนนเอกชัย บริเวณพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตร ฝั่งตะวันตก เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีระบบการให้รางวัล โดยการเพิ่มพื้นที่การก่อสร้างอาคาร ให้กับเจ้าของที่ดิน หรือผู้พัฒนาโครงการที่นำที่ดินบางส่วนมาแชร์ เพื่อสาธารณะประโยชน์ เช่น
 การจัดให้มีพื้นที่ว่างเพื่อการใช้ประโยชน์สาธารณะ หรือมีสวนสาธารณะให้คนในชุมชนมาใช้ประโยชน์

 การจัดให้มีที่จอดรถยนต์ในพื้นที่ภายในรัศมี 500 เมตรโดยรอบสถานีรถไฟฟ้า หรือการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่การสัญจรอื่นๆ การจัดให้มีพื้นที่สำหรับการกักเก็บน้ำฝนในอาคารหรือในโครงการ การก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงาน การจัดให้มีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย หรือผู้อยู่อาศัยเดิมในพื้นที่โครงการ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเจ้าของที่ดินในหลายๆ พื้นที่ ที่มีข้อจำกัดในการพัฒนา ก็สามารถโอนสิทธิการพัฒนาไปในพื้นที่อื่นได้ โดยสามารถทำได้ใน 3 กรณี คือ การโอนสิทธิการพัฒนาภายในบริเวณการใช้ประโยชน์ที่ดิน การโอนสิทธิการพัฒนาจากพื้นที่ตั้งอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไปยังพื้นที่ในเขตส่งเสริมการพัฒนา การโอนสิทธิการพัฒนาจากพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรมไปยังพื้นที่ในเขตส่งเสริมการพัฒนา เป็นต้น

ในช่วงนี้ประชาชนชาวกทม.สามารถเข้าไปร่วมแสดงความเห็นต่อร่างผังกทม.ใหม่ได้ ตามสิทธิของตัวเอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาเมืองกทม.ในอนาคต