posttoday

เสนาดีเวลลอปเม้นท์ คาดอสังหาฯฟื้นครึ่งปีหลัง

31 พฤษภาคม 2562

น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปีนี้ยังคงจะชะลอตัว ซึ่งในไตรมาสนี้จะไม่เห็นการปรับขึ้นของซัพพลายใหม่หรือราคาขายที่เพิ่มขึ้น แต่มีการประเมินว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเน้นเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังแทน

น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปีนี้ยังคงจะชะลอตัว ซึ่งในไตรมาสนี้จะไม่เห็นการปรับขึ้นของซัพพลายใหม่หรือราคาขายที่เพิ่มขึ้น แต่มีการประเมินว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเน้นเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังแทน

ขณะที่ดีมานด์ยังส่งสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มเรียลดีมานด์ทั้ง บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ประกอบกับบริษัทมีการออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ในไตรมาส 2 บริษัทยังเดินหน้าเปิดตัวโครงการ จำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,279 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเสนา แกรนด์ โฮม ติวานนท์-รังสิต จำนวน 88 ยูนิต มูลค่าโครงการ 695 ล้านบาท โครงการนิช ไพร์ด สมเด็จเจ้าพระยา จำนวน 213 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,094 ล้านบาท และโครงการเสนา วณิช อุดรธานี จำนวน 137 ยูนิต มูลค่าโครงการ 490 ล้านบาท

ทั้งยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเปิดโครงการใหม่ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑลและต่างจังหวัด จำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวม 1.87 หมื่นล้านบาท ขณะที่มียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (แบ็กล็อก) คิดเป็นมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท (ณ สิ้นเดือน มี.ค.62 ) รวมโครงการ JV คอนโดมิเนียมในกรุงเทพและปริมณฑล ประกอบด้วย "นิช โมโน สุขุมวิท แบริ่ง" "นิช ไพร์ด เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์" "ปีติ เอกมัย" "นิช โมโน เจริญนคร" "นิช โมโน เมกะ-สเปซ บางนา" "นิช โมโน รามคำแหง" โครงการแนวราบในต่างจังหวัด ประกอบด้วย "เดอะ ลิฟวิ่ง นารายา 2" "บ้านบูรพา บ่อวิน" "พราวทาวน์" ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 62-64 ตามลำดับ

บริษัทคาดในช่วงไตรมารส 4/62 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากจะมีการทยอยโอนโครงการใหม่ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โครงการเดอะ นิช โมโน แบริ่ง และโครงการเดอะ นิช ปากเกร็ด ซึ่งคาดจะมียอดโอนของทั้งสองโครงการดังกล่าวประมาณ 4,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการประเภทอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งนอกเหนือจากการก่อสร้างพัฒนาโครงการ