คาดโอนอสังหาพุ่ง2แสนล้าน

สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรชี้มาตรการแอลทีวี ดันยอดโอนไตรมาสแรกโตราว 2 แสนล้าน จับตาแบงก์แห่ล็อกผู้ซื้อเซ็นสัญญากู้ก่อนโอนจริง

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า มาตรการแอลทีวีที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย.นี้ จะทำให้มีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น คาดว่าไตรมาสแรกจะมียอดโอนทั้งแนวรราบและสูงมูลค่ารวมราว 2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการดึงยอดโอนจากไตรมาส 2 มาราว 8 หมื่นล้านบาท จากปกติโอนเฉลี่ยเดือนละ 4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้จะทำให้การโอนในไตรมาส 2 ชะลอตัวลง

อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวอาจทำให้เกิดการเซ็นสัญญาสินเชื่อที่อยู่อาศัยล่วงหน้าแต่ยังไม่เกิดการโอนจริง ซึ่งสามารถทำได้สำหรับโครงการที่สร้างใกล้แล้วเสร็จแต่โอนไม่ทันการบังคับใช้ ทั้งนี้ผู้กู้จะต้องผ่านคุณสมบัติการกู้ด้วยไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อแบงก์ คาดว่าการเซ็นสัญญากู้ล่วงหน้าจะช่วยยืดระยะเวลาโอนได้ 1-2 เดือน

ด้านภาพรวมตลาดแนวราบในปีนี้ คาดว่าจะยังทรงตัวแต่ยังมีโอกาสเติบโตได้ทั้งในทำเลกรุงเทพฯ-ปริมณฑลและต่างจังหวัด เพราะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงไม่มีการเก็งกำไร โดยแนวโน้มตลาดแนวราบทั่วประเทศคาดว่าจะมียอดขายใหม่ 1.1-1.2 แสนยูนิต หรือเติบโต 5% โดยแบ่งเป็นในต่างจังหวัด 6-7 หมื่นยูนิต และในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 5 หมื่นยูนิต

ทั้งนี้ จะเป็นปีแรกในรอบหลายๆ ปีที่ตลาดบ้านแนวราบจะครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่าคอนโด และมองว่าทาวน์เฮาส์จะแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคอนโดราว 5-10% เนื่องจากราคาต่อตารางเมตรถูกกว่าคอนโด 2-3 เท่า ขณะที่ตลาดคอนโดมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลงซึ่งยังต้องพึ่งสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ

ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากการเลือกตั้ง แล้วไม่มีปัญหา และหากรัฐบาลใหม่สานต่อเมกะโปรเจกต์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต ขณะเดียวกันต้องดูนโยบายการเงินการคลังและรัฐบาลใหม่จะเดินไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ และจะมีมาตรการใหม่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกหรือเปล่า รวมทั้งต้องรอการประเมินผลหลังมาตรการแอลทีวีบังคับใช้ซึ่งอาจใช้เวลา 6 เดือน